วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

[Mini Review] Love me tender le bistro


เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาใกล้วันเกิดคุณพ่อแล้ว ยู้รับหน้าที่หาร้านอาหารที่จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทาน แล้วก็ไปเจอร้านนี้ใน app eatigo ค่ะ
001

Love Me Tender Le Bistro หน้าตาดูดี มีออร่าน่ากิน แถมถ้าจองตอน 11:00 หรือ 11:30 ลด 50% อีกต่างหาก
จาก Facebook ของร้านบอกว่า Style&Concept ของร้านคือ
เลิฟมีเทนเดอร์ เลอบิสโทร เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์ Bistro ที่สุดและได้นิยามของคำว่า "เนื้อนุ่มละมุนลิ้น"
อาหารเป็นแบบ French Cuisine เริ่มจาก ซุปหรือสลัด ตามด้วยอาหารจานหลัก พร้อมด้วยเฮ้าส์ไวน์รสดี ตบท้ายด้วยของหวานหรือไอศครีมเหมาะสำหรับเลี้ยงสังสรรค์ครอบครัว เพื่อนสนิทมาเป็นก๊วน ดินเนอร์ชิลๆของคู่เดท บรรยากาศอบอุ่นสบายเคล้าเสียงเพลงบรรเลงเบาๆตามสมัยนิยม ที่สำคัญปริมาณเต็มอิ่มคู่กับคุณภาพ
ไม่ต้องบินไปไกลถึงปารีส ก็สามารถดินเนอร์สไลต์ฝรั่งเศสได้ที่ ร้านเลิฟ มี เทนเดอร์ เลอ บิสโทร ไม่เน้นหรูแต่ดูดี เป็นร้านอาหารอีกร้านที่ Beef Lover ไม่ควรพลาด!
ลองไปหาข้อมูลดู review ต่างๆ แล้วน่าสนใจมากกกกกกกกกกก ทุกคนบอกว่าเนื้อนุ่มอร่อยมาก

ในเมื่อเขาโฆษณาว่าห้ามพลาด แล้ว Beef Lover อย่างเราจะรออะไรอยู่ จองเลยสิคะ กดจองผ่าน app ใส่เวลา และจำนวนคน แล้วจะได้รหัสมา เก็บรหัสนั้นไว้เอาไว้ไปบอกที่ร้านเพื่อรับส่วนลด

พิกัดร้านอยู่ที่ TTN Avenue ถนนนางลิ้นจี่ค่ะ มีที่จอดรถ ร้านจะอยู่ชั้น 2 ข้างๆ ชาบูนางใน
ที่บ้านไปถึงตอน 10:50 ที่จอดโล่งมากมาย(ใครเขามากินข้าววันอาทิตย์ตอน 11 โมงกันล่ะ)
ร้านเปิด 11:00 ค่ะ ก็เลยเดินเล่นใน Tops ชั้นล่างรอเวลาไปก่อน

รูปหน้าร้าน ขาเข้ามัวแต่หิวเลยไม่ได้ชักภาพ มาถ่ายตอนขากินอิ่มแล้ว
002

พอ 11:00 ขึ้นมาหน้าร้าน แต่ที่ประตูยังติดป้าย close อยู่ เดินมึนๆ อยู่หน้าร้านแป๊บนึง พนักงานก็มากลับป้ายเป็น Open แล้วก็มีคนมาเปิดประตู
003

เข้ามาแล้วพนักงานถามว่าที่จองไว้ 4 ที่ใช่ไหมคะ ใช่เลยค่ะ!! คาดว่าคงจะมีพวกเราโต๊ะเดียวที่จองตั้งแต่ร้านเปิด
004

ตอนที่กินจะเสร็จเห็นมีคุณฝรั่งเข้ามาอีก 1 คน(ซึ่งเหมือนจะรู้จักกับที่ร้าน) นอกนั้นไม่มีคนเลยค่ะ อาหารก็เลยมาค่อนข้างเร็ว
ไม่รู้ว่าตอนเย็นคนจะเยอะหรือเปล่านะคะ
005

พอได้โต๊ะนั่งพนักงานก็เอาเมนูมาให้ค่ะ แล้วถามว่ารับน้ำก่อนไหม ก็เลยสั่งน้ำเปล่าไปค่ะ(พนักงานมีย้ำด้วยว่าน้ำเย็นใช่ไหมคะ สงสัยกลัวบางคนกินน้ำไม่เย็น)
มีทั้งเมนูแบบเล่ม เมนูที่ตั้งบนโต๊ะ(เหมือนเป็นปฏิทิน) แล้วก็เมนูที่เขียนไว้บนเสา ซึ่ง 3 ที่นี้มีบางเมนูซ้ำกัน แต่บางเมนูก็ไม่ซ้ำถ้าดูแต่ในเมนูเล่ม จะเห็นไม่ครบทุกเมนู แถมยังมีเมนูใหม่ๆ อีกต่างหาก พนักงานจะแนะนำว่าสนใจเมนูนี้ไหมคะ แล้วไปเอา ipad มาเปิดภาพให้ดูค่ะ ซึ่งการที่เมนูกระจัดกระจาย ก็ทำให้มึนๆพอสมควร
อาหารฝรั่งเศสตาม original น่าจะสั่งมากินแบบของใครของมัน แต่ที่นี่ประเทศไทยก็สั่งมาทานตรงกลางสิคะ เขามีจานของแต่ละคนให้ค่ะ
006

ก่อนจะไปถึงเมนูอาหาร ขอบอกก่อนว่ายู้รู้สึกว่าอาหารที่ร้านนี้บางจานรสชาติแปลกลิ้นดีค่ะ อาจจะเพราะยู้ไม่เคยทานอาหารฝรั่งเศส บางอย่างก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ไม่รู้ว่าเป็นรสชาติของอะไร รู้แต่ว่าแป๊บเดียวเกลี้ยงเลย
ตอนสั่งก็พยายามให้มันกระจายๆ ระหว่างเนื้อ แกะ ปลา ไก่ ซีฟู้ด และกรรมวิธีทำอาหาร(ซุป สลัด พาสต้า ย่าง ตุ๋น) ความจริงมีจานเนื้อที่อยากกินอีกหลายจานเลย

สั่งเสร็จแล้วก็มีขนมปังอุ่นๆ มาเสริฟ ขนมปังที่นี่จะเป็นแบบนุ่มหนึบค่ะ แปลกดี อร่อยอยากกินอีก แต่ตะกร้าละ 60 บาท ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ
007

จานแรกเป็นซุปเห็ด MUSHROOM SOUP WITH TRUFFLE CREAM อร่อยดีแต่ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ
009

SHAKE SALAD JAR : FIRE ROASTED PEPPER AU SALMON : สลัดที่นี่จะเสริฟมาในโหลค่ะ มาถึงพนักงานก็เอาโหลมาเขย่าๆๆ ให้น้ำสลัดทั่วถึงแล้วเทใส่จานให้ เลยไม่ได้ถ่ายรูปโหลมา ยืมรูปจาก FB ของร้านมาแล้วกัน
น้ำสลัดจะเป็นแบบเผ็ดนิดๆ ทานผักแล้วรสชาติไม่เข้มข้นเกินไปจนกลบรสผัก แต่ถ้าใครชอบทานน้ำสลัดเยอะอาจจะรู้สึกจืดไปหน่อย
ปล. แต่โดยส่วนตัวไม่ชอบน้ำสลัดรสแบบนี้นะ รู้งี๊สั่งซีซาร์ดีกว่า
019008

PASTA SEAFOOD LOBSTER SAUCE - จานนี้ประทับใจทั้งซอส ทั้งชีส รสเข้มข้น และรู้สึกว่ากินแล้วได้รสชาติของทะเลเบาๆ(ว่าไปนั่น) เส้นลวกมาได้หนึบกำลังดีมากๆ กุ้งก็เนื้อแน่นหนึบดี ปลาหมึกแม่บ่นว่าเนื้อบางแต่เราไม่ได้ชิมค่ะ
010

มาถึงจาน Highlight ที่ต้องสั่ง LMT Seared Beef Deluxe เมนูนี้มีทั้งแบบ 400g สำหรับ 2 คน และ 900g สำหรับ 4 คนค่ะ อยากกินหลายๆ อย่างงั้นสั่งแบบ 2 คนพอแล้วกัน ความสุกระดับ Medium
เสริฟมาในจานร้อน เนื้อมันนุ่มมาก ซึ่งเขาบอกว่าเนื้อร้านนี้ใช้วิธี “ซูวี” (Sous Vide) จึงทำให้นุ่มแบบนี้ค่ะ ใครสงสัยว่าวิธีนี้เป็นยังไง เราไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าอร่อย!!!
ความนุ่มนี้มันเป็นคนละแบบกับเสต็กทั่วไปนะคะ ปกติแล้วเวลาเราทานเนื้อนุ่มๆ จะต้องมีไขมันแทรกในเนื้อ หั่นแล้วน้ำมันเยิ้มไปหมด แต่อันนี้ไม่มีเลยค่ะ
011

โอ๊ยยยยยย มาดูรูปอีกทีแล้วหิว
ปกติพ่อไม่ชอบกินของไม่สุก ชิ้นแรกพ่อเอาไปนาบกระทะให้มันสุกก่อน แต่พอชิ้นที่สองกระทะหายร้อนแล้วทำให้สุกไม่ได้ ท่านพ่อก็เลยค้นพบว่าชิ้นที่สองมันนุ่มอร่อยกว่าค่ะ ใครที่ยังไม่กล้าทานเนื้อแบบไม่สุก ลองสักคำแล้วจะติดใจนะคะ อิอิ
012

จานต่อมา BRAISED LAMB SHANK PORTOBELLO MUSHROOM & POLENTA AU GRATIN
เป็นขาแกะตุ๋น เนื้อนิ่มมากแค่เอาช้อนหั่นก็หลุดออกมาเป็นชิ้น เหมือนขาหมู แต่กลิ่นเป็นแกะค่ะ(บอกว่าเหมือนขาหมูนี่มันจะดูน่ากินหรือไม่น่ากินนะ)
ทานคู่กับอูกราแตงข้าวโพด ซึ่งไม่รู้สึกถึงข้าวโพดเลย รู้แต่ชีสสสสส มาก
พูดถึงแกะทุกคนมักจะพูดเรื่องว่าเหม็นสาบไหม เราตอบไม่ได้ค่ะ ไม่เคยรู้เลยว่ากลิ่นแบบไหนคือเหม็นสาบของแกะ เคยแต่รู้สึกว่าทำไมแกะจานนี้ไม่มีกลิ่นแกะเลย จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าหรือกลิ่นที่เราชอบมันคือกลิ่นที่คนอื่นไม่ชอบกันนะ
013

ที่สั่งไปชุดแรกแค่นี้ค่ะ กำลังทานใกล้จะหมด มีคนเดินมาถามว่าจะรับของหวานด้วยไหม เพราะถ้าสั่งทาร์ตต้องรอ 15 นาที แต่ว่าเรายังไม่อิ่มของคาว(ฮา) พอสั่งของคาวเพิ่ม พนักงานมาเปลี่ยนจานให้ เพราะตอนนี้ซอสจากจานแกะเลอะเต็มจานไปหมด
กินแบบไม่สนวัฒนธรรมฝรั่งเศส Main course จบ เราวนกลับไปกินซุปอีกรอบ(น้องสาวบอกว่าคิดซะว่ากินโต๊ะจีน มีซุปปิดท้าย)

ซุปล็อบสเตอร์ : LOBSTER BISQUE เมนูนี้เห็นใน FB ร้าน ตอนแรกหาในเมนูไม่เจอก็เลยยังไม่ได้สั่ง มาเห็นทีหลังว่าเขียนอยู่บนเสา
ประทับใจจานนี้อีกแล้ว ดูเหมือนยู้จะชอบเมนูล็อบสเตอร์นะเนี่ย รสชาติจะบางๆกว่าพาสต้า มีกลิ่นที่กินแล้วสดชื่นดี(สรุปก็ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นล็อบสเตอร์หรือเปล่า)
ลืมถ่ายรูปขอรูปจากที่ร้านมาหน่อยแล้วกัน ความจริงหน้าตาอาหารคล้ายซุปเห็ดนั่นแหละ แต่เป็นสีส้ม
018

จบของคาวด้วยเมนูที่พนักงานแนะนำว่าเป็นเมนูใหม่ แล้ววิ่งไปเอา ipad มาเปิดให้ดูรูป ก็เลยจัดมา 1 จาน
ไก่ทอดกับวาฟเฟิล ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันจะเข้ากันเหรอ แต่ก็อร่อยดีค่ะ เสียแต่เนื้อไก่แข็งไปนิดนึง
014

ตบท้ายด้วยของหวาน 
ของหวานในเมนูจะมี 2 อย่าง อย่างแรก คือ APPLE TART TATIN เสริฟพร้อมไอศกรีมวนิลา ยู้ชอบเมนูนี้นะ แต่ทาร์ตด้านล่างมันเหึ่ยวแบนเกินไปหน่อย ถ้าทำให้ฟูๆ กรอบๆ ได้จะเลิศมาก ส่วนไอติมน้องสาวประทับใจว่าอร่อย(ปกติน้องไม่ชอบวนิลา)
016

ความจริงของหวานในเมนูอีกอย่างคือ CREME BRULEE แต่ปกติไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
พอดีว่าพนักงานแนะนำเมนูใหม่ พานาคอตต้า ซอสสตอเบอร์รี่ เลยจัดเมนูนี้แทน ซอสสตอเบอร์รี่เข้มข้น หวานๆเปรี้ยวๆ แต่อยากให้สีขาวด้านล่างมีกลิ่นเข้มกว่านี้หน่อยจะได้ตัดกับซอส
015

จบแล้วค่าเสียหาย 3340 บาท ลด 50% เฉพาะค่าอาหาร(ไม่รวมน้ำและของหวาน) บวก Vat ไม่บวก service charge รวมจ่ายไป 2011.60 คนละประมาณ 500 บาท
017

สรุป : อาหารอร่อย การบริการดี ประทับใจพนักงานมาก น่ารักเป็นกันเอง ยิ้มแย้ม กระตือรือร้นในการให้บริการ ส่วนราคาเนี่ยถ้าเป็นราคาเต็มอาจจะต้องคิดสักหน่อย แต่ราคาลดนี่คุ้มสุดๆ