วันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

27 Dresses ปะทะ PS. I love you

ไปดูมานานแล้วทั้ง 2 เรื่องหนังรักที่เข้าวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา แต่ก็เพิ่งจะได้มา update blog เนี่ยแหละ


เนื่องจากไม่ได้มีอารมณ์ดี๊ด๊า แบบ enchanted คงไม่บรรยายละเอียดเท่าคราวที่แล้ว


---> PS. I love you <---

หนังรัก เคล้าน้ำตา


เป็นหนังดีๆ ที่น่าจะควงแขนคนรู้ใจไปดู แต่หนุ่มคนไหนพาแม่ทูนหัวไปดู ระวังจะโดนค้อน ว่าทำไม่เธอไม่ทำเพื่อฉันขนาดนี้บ้างเนี่ย (แต่ยังไงหนังก็ออกไปแล้วนี่เนอะ)


เป็นหนังเกี่ยวกับ ชายหนุ่มที่ตายไป(ด้วยเนื้องอกในสมอง) และทิ้งภรรยาผู้โศกเศร้าไว้ แต่หลังจากนั้นก็มีจดหมายส่งมาหาเธอทีละฉบับ เพื่อนำพาเธอออกจากความเศร้า และเริ่มชีวิตใหม่ได้ในที่สุด


หนังทำออกมาได้ค่อนข้างซาบซึ้ง อย่างน้อยคนบ่อน้ำตาตื้นอย่างเราก็ร้องไห้มันเกือบทั้งเรื่องน่ะแหละ 


แต่ตัวหนังค่อนข้างจะเรื่อยๆ เหมือนเป็นการเล่าเรื่องว่าเมื่อวานฉันทำอะไรมา ไม่ค่อยมีจุดให้ลุ้นว่าพระเอกนางเอกจะลงเอยกันแบบไหน ไม่มีการทะเลาะกันก่อนจะตามไปง้อแล้วค่อยจบ จุดที่ให้ลุ้นเล็กๆน้อยๆ หรือฉากทำซึ้งมีอยู่ตลอด


โดยตามท้องเรื่องว่าจดหมายของพระเอกได้ค่อยๆ นำพานางเอกออกจากความเศร้า จนวันหนึ่งนางเอกก็รู้สึกว่าฉันมีชีวิตต่อไปได้แล้ว 

เหมือนอารมณ์ตอนดูที่จดหมายของพระเอกทำให้เราติดตามดูเรื่อยๆ จนเวลาหนึ่งเราก็รู้สึกว่าหนังจะจบซะแล้ว

จม.แต่ละฉบับก็ห่างกันเหลือเกิน(และจำนวนน้อยกว่าที่คิดไว้) ถ้านางเอกเศร้าขนาดนั้นคงตรอมใจตายไปแล้ว

ฟังแล้วเหมือนหนังจะดีดูเพลินๆ แต่รู้สึกว่าไม่มี 'ปม' ของหนัง ก็เหมือนเทพนิยายที่ไม่มีแม่มดน่ะแหละ


อีกอย่างที่ไม่ชอบคือการเล่าเรื่องการพบกันของพระเอกนางเอกไว้ส่วนท้ายของเรื่อง มาถึงตอนนี้น่ะแหละเพิ่งรู้สึกว่านางเอกน่ารัก 

ดูมาแต่ต้นรู้สึกแต่นางเอกเล่นบทโศก ตลอดเวลา เอาแต่ซึมบ้าง วีนบ้าง ไม่ค่อยรู้สึกถึงความรักของทั้งคู่ในตอนต้นเรื่อง เหมือนกับมีคนมาบอกว่าเขารักกันเหลือเกิน แต่ว่าไม่เห็นกับตานั่นแหละ


บ่นไปบ่นมา ความจริงเป็นหนังที่ดีเรื่องนึง(ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ) แต่ว่าในความคิดของเราน่าจะทำออกมาดีกว่านี้ สงสัยหวังสูงไปมั้ง

---> 27 Dresses <---

Romantic Comedy แสนน่ารัก


เรื่องนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าชอบ


เป็นเรื่องเกี่ยวกันสาวเจ้าคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าสาวมา 27 ครั้งแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้เป็นเจ้าสาวเองสักที เจ้านายสุดหล่อที่เธอหลงรักอยู่ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันมาชอบเธอ แถมยังไปปิ๊งกับน้องสาวของเธออีกต่างหาก


ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เนื้อเรื่องก็แนวเดิม ดูต้นเรื่องก็เดาตอนจบได้ซะแล้ว

แต่ว่าดูแล้วก็ไม่รู้สึกว่ารำคาญ ถึงรู้แล้วก็ยังลุ้นตาม ยิ้มตาม  เศร้าตาม ไปได้


ความจริงก็มีแนวเรื่องก็เบี่ยงๆ ไปจากที่คิดเหมือนกัน ตอนแรกสุดคิดว่าจะเป็นแนวว่านางเอกอยากแต่งงานมาก แต่ไม่ได้แต่งสักที เพื่อนๆ ก็แต่งหมดแล้ว จนต้องมาปฏิบัติการหาคู่

แต่เรื่องกลายเป็นว่านางเอกเป็นสาวแสนดี รักและฝันถึงงานแต่งงาน(แต่ก็เอาแต่ฝันไม่ทำอะไรให้ได้แต่สักที) เป็นเพื่อนแสนดีและช่วยเขาจัดงานแต่ไปทั่ว เลยได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวถึง 27 งาน!!! ซึ่งก็ไม่ใช่ว่านางเอกแก่แล้วไม่ได้แต่งสักที แต่เป็นเพราะพี่แกเพื่อนเยอะ เป็นเพื่อนเจ้าสาวมันทุกงานเลย


ดูแล้วก็อยากมีเพื่อนอย่างนางเอกของเรื่องสักคน อะไรจะเป็นคนดีขนาดนั้น หรือว่ามีแล้วจะกลุ้มใจหว่า?? ช่วยเขาจัดงานแต่งทุกอย่าง ทั้งสั่งเค้ก ตัดชุด เลือกอาหาร น่าจะไปเปิดร้านรับจัดงานแต่งซะเลย


สุดท้ายก็เป็นการลุกขึ้นมาวีนแตกของนางเอก และก็งอนง้อกับพระเอกเล็กน้อย สุดท้ายแล้วก็ได้จัดงานแต่งของตัวเองสมใจ


ชอบประโยคหนึ่งในเรื่องที่พระเอกถามถึงนางเอกว่าทำไมถึงต้องทำอะไรขนาดนี้ด้วย(เธอนั่งรถกลับไปมาระหว่างงานแต่ง 2 งานในคืนเดียว) เธอตอบว่า

-> วันแต่งงานเป็นวันของเจ้าสาว เธอก็อยากจะอยู่ที่นั่นเพื่อเพื่อนของเธอ และเธอคิดว่าสักวันหนึ่งเมื่อเธอต้องการเพื่อนๆ ก็จะมาอยู่ที่นั่นเพื่อเธอเช่นกัน

(คำพูดอาจจะไม่ตรงเด๊ะ แต่ว่าประมาณนี้แหละ)


ปล. ตอนดูแอบเศร้าตามนางเอกไปด้วย มีฉากนึงเขาขำกัน แต่ว่าตัวเองจะร้องไห้(บ่อน้ำตาตื้นก็งี้แหละ สงสารนางเอก) แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นฉากยังไง


พบกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Enchanted

ไปดูกันมาหรือยังจ๊ะ Enchanted เราดูแล้ว ชอบมากๆ เลย


ตอนนี้ถึงกับเป็นโรคบ้า Disney ไปแล้ว เอาเพลงมาฟัง แล้วก็ไปดู clip ใน Youtube

แล้วก็ไปขุดเพลง Disney อื่นๆมาฟัง ฟังไปแล้วก็มีความสุข


ใครที่ไม่ชอบดูการ์ตูน หรือไม่ชอบหนังที่นางเอกสุดแสนดี ไร้เดียงสา ก็ข้ามเรื่องนี้ไปเลยค่ะ

แต่ถ้าชอบหนังน่ารักๆ แล้ว แนะนำมากๆ


** ข้างล่างคง spoil หน่อยๆ อ่ะนะ (หรือมากก็ไม่รู้) ความจริงจะพยายามไม่ spoil แต่ว่าคงทำไม่ได้ 



หนังเปิดฉากด้วยการ์ตูนที่เป็น เทพนิยายสุดๆ แล้วก็มีกลิ่นอาย disney ด้วย มีนางเอกแสนอ่อนหวานร้องเพลงกับเหล่าสัตว์ แล้วเจ้าชายสุดแสนเท่ก็โผล่มาจีบกันร้องเพลงกัน คนไม่ดูหนัง Disney อาจจะงงว่าเป็นหนังแขกหรือไงต้องมาร้องเพลงจีบกัน นี่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Disney เลยนะร้องเพลงเนี่ย เพลงเพราะค่ะ  ชอบๆ (True love kiss)


แล้วก็เหมือนในตัวอย่างหนัง นางเอกโดนผลักมาในโลกเรา แล้วก็วิ่งตามหาทางกลับปราสาท อยากรู้จริงๆ ใครออกแบบกระโปรงให้นางเอกฟูฟ่องได้ใจมากๆ ชุดที่ขาวฟ่องๆ นั่นน่ะค่ะ เป็นชุดแต่งงานนะ ตอนดูตัวอย่างนึกว่าเป็นชุดไปงานเต้นรำซะอีก


แล้วพระเอกก็เป็นพวกไม่เชื่อในความรัก(ตาม style หนังแบบนี้) เชื่อแต่เหตุผลและความเข้าใจกัน เขาจับผลัดจับผลูรับนางเอกมาไว้ในบ้านเพราะลูกสาวขอไว้ เธอเชื่อว่านางเอกเป็นเจ้าหญิงจริงๆ


นางเอกแสดงได้เหมือนตัวการ์ตูนจริงๆ ท่าทางการเดินที่เหมือนเต้นรำไปด้วย หรือการร้องเพลงตลอดเวลา การทำตาเพ้อฝัน ดูแล้วขำ เห็นแล้วให้ความรู้สึกว่าหลุดออกมาจากเทพนิยายแน่ๆ


ที่ชอบมากคือการจับ style ของการ์ตูนออกมาแสดง หรือบางทีก็ใช้เล่นมุข


  • การที่จู่ๆ นางเอกก็เปลี่ยนมาร้องเพลงแทนการพูดซะงั้น แถมคนทั้งสวนยังร้องเพลงเดียวกับเธอเป็นอีกด้วย เพลง That's how you know
  • นางเอกเอาผ้าม่านบ้าง ผ้าปูเตียงบ้าง (ลายดอกไม้) มาตัดชุดเป็น style เจ้าหญิงใส่เอง
  • ที่ขำที่สุดคือนางเอกยังเรียกสัตว์ทั้งหลายมาช่วยงานได้ ในป่าก็มีนกมีกวาง แต่ใน New York ล่ะ ก็เป็นพิราบ หนู แมลงวัน และที่สำคัญ แมลงสาป!!! เห็นแมลงสาป โยกตัวตามเพลงแล้วก็ขำ แล้วดันบินอีก ถ้าเป็นนกหรือผีเสื้อก็คงน่ารักดี แต่นี่ดูไปก็สยอง แต่ก็ยังขำ(รู้สึกมันน่ารักนิดหน่อย) อ้อ แล้วก็ร้องเพลงนี้ไปด้วย happy working song

สรุปแล้วเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับการเชื่อในความรักและดูแลความรัก สุดท้ายแล้วพระเอกก็ซึมซับความน่ารักเพ้อฝันของนางเอกเข้าไป ส่วนนางเอกก็เริ่มเพ้อน้อยลง แล้วคิดมากขึ้น
อันนี้ spoil --->>> ก่อนไปดูคิดเหมือนกันว่าถ้านางเอกชอบพระเอกแล้ว เจ้าชายที่อุตส่าห์ออกมาตามล่ะ แต่พอเห็นคู่หมั้นของพระเอกก็ถึงบางอ้อ และแล้วก็สลับคู่กันจริงๆ ด้วย คู่หมั้นพระเอกก็กลับไปอยู่ในการ์ตูนกับเจ้าชาย
ยังมีเรื่องแม่มด กับตัวอื่นๆ อีกนิดหน่อย ทำให้หนังมันส์ และมีเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่ไม่ค่อยน่าสนใจ ดังนั้นไม่กล่าวถึงแล้วกัน
สุดท้ายแล้วก็ Live happily ever after กัน อย่างเพลง ever ever after ค่ะ

ปล. ที่ชื่อเพลงจะ link ไปที่ youtube ค่ะ ดู clip น่ารักๆ จากเรื่องนี้ได้ค่ะ




Status ตอนนี้

ในที่สุดก็ได้เข้ามาอัพเดท blog อีกครั้งจนได้ เพราะน้องสาวใกล้ๆ สอบเลยยืดคอมฯ มาได้


อยู่ๆ อยากจะเขียน blog ขึ้นมาแต่ดันไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรดี ก็เอาเป็น update status ส่วนตัวแล้วกันนะ

ทำไมอยากเขียนน่ะเหรอ ก็ตอนวันจันทร์ที่ผ่านมา เข้าไปที่ทำงานแล้วก็ไม่เจอใครเลย(ตอนนั้นเกือบ 8 โมงครึ่งแล้ว)

ก็เลยงงว่าชั้นจำวันทำงานผิดหรือเปล่าเนี่ย หรือวันนี้เขาต้องไปที่อื่นกัน พักหลังยิ่งชอบเมาๆ อยู่ด้วย

แต่ไหนๆ ก็มาแล้วก็เลยนั่งอู้อยู่พักนึง เปิด mail มาเห็นอุ๊ update เรื่องตรุษจีน ก็เลยอยากเขียนมั่ง


ความจริงเขียนไว้ตั้งแต่วันนั้นเลยนะ แต่ดัน save ไม่ได้ไม่รู้เป็นอะไร save ไว้ใน notepad เครื่องที่ office แต่ดันลืม save กลับบ้าน

วันนี้ได้ใช้ com ก็เลยเอาวะ เขียนใหม่ก็ได้ เนื้อหาก็คงคล้ายๆ เดิมแหละ ..... มั้ง 


ดูซิ พล่ามมายาวยังไม่ update status สักที ไม่รู้ทำไมเป็นคนเขียนอะไรสั้นๆ ไม่เป็นชอบพร่ำเพ้อไปเรื่อย


มา update status ดีกว่า


  • ตอนนี้ถูกย้ายมาประจำที่ศิริราชแล้ว ใครผ่านมาจะมาแวะทักทายกันบ้างก็ได้ ส่วนใครจะนัดกินข้าวหรือทำอะไรตอนเย็นก็ระลึกไว้หน่อยว่าจะไปช้า เพราะอยู่ไกลนะ
  • ช่วงนี้รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา อยากทำโน่นทำนี่เยอะแยะ รู้สึกว่าเวลาเนี่ยมีเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอ
  • เป็นบ้าอยากดูหนังเกือบทุกเรื่องเลย ใครอยากดูเรื่องไหนโทรมาชวนได้ จะไปดูด้วย ถ้ายังไม่ได้ดูนะ
  • แต่ถ้าจะเลี้ยง ดูอีกรอบก็ได้  
  • อยากไปเที่ยวโน่น เที่ยวนี่ ท้องฟ้าจำลอง พิพิธภัณฑ์ อยากไปกินโน่นกินนี่
  • มีเกมที่อยากเล่นอยู่ตั้งเยอะ
  • ตุ๊กตา และ โครเชต์ที่ตั้งใจจะทำก็ไม่เสร็จสักที
  • หนังสือที่ซื้อมาคราวที่แล้ว อ่านจะหมดแล้วเหลืออยู่ 4-5 เล่ม จะอ่านจบก่อนงานหนังสือคราวนี้มั้ยเนี่ย
  • อยากได้ Notebook ใหม่ด้วย
  • แต่ตรุษจีนที่ผ่านมาให้แต๊ะเอียไป ตังค์หมดเลย
  • เงินนี่ก็อีกอย่างมีเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอ
  • อ้อ! ตอนนี้กำลังบ้า Disney ทั้งการ์ตูน ทั้งเพลง ทั้งหนัง อาการกำเริบเพราะไปดู enchanted มา

พูดถึง enchanted ไปเขียน blog เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า บาย บาย