เมื่อวันเสาร์ไปดูหนังสองเรื่องควบมาอีกแล้ว
เรื่องแรกคือ 007 เรื่องนี้ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่ เพราะเกิดอาการเบื่อ 007 มาตั้งแต่ช่วง Die Another Day แล้วก็รู้สึกว่าอีตาพระเอกคนใหม่นี่ไม่หล่อ(หน้าตาบ้านๆเกินไป) ในความคิด 007 ควรเป็นผู้ชายสุดเนี้ยบ ปากหวาน แต่ในความเห็นส่วนตัวหน้าพี่แกไม่ให้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ไปดูด้วยความที่มีคนชวนดู+มีบัตรสะสมแต้มอยู่ (ซึ่งความจริงได้เสื้อมาก็ให้คนอื่นไปอยู่ดี หาเรื่องเสียตังค์จริงๆชั้น)
ไม่ได้ดูภาคที่แล้ว รู้สึกเรื่องมันจะต่อกันเล็กน้อย(และได้ข่าวว่าจะต่อกับภาคหน้าด้วย) ดังนั้นก็เลยงงๆ นิดหน่อย แต่ก็ทำใจไว้แล้วก็เลยไม่หงุดหงิดเท่าไหร่ 007 ก็ยังคงความเป็น 007 บู๊ตลอดเรื่อง มีทั้งวิ่งไล่กัน ขับรถไล่กัน ขับเรือไล่กัน ขับเครื่องบินไล่กัน ดีที่ยังไม่มีปั่นจักรยาน หรือเข็น wheelchair ไล่กัน ซึ่งในภาคนี้(คงจะภาคที่แล้วด้วยมั้ง ไม่ได้ดูภาคที่แล้ว) Bond ได้ลดความเนี๊ยบลงมาติดดิน ซึ่งเห็นหลายๆคนออกจะชอบว่ามันไม่เวอร์เกินไป ภาคอื่นเราจะเห็นพระเอกทำงานเหมือนง่ายๆ แต่ในภาคนี้ออกจะเหมือนกับพวกหนังบู๊ทั่วไป ซึ่งถ้าถามความเห็นก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ 007 รู้สึกขาดอะไรไปสักอย่าง
แต่มาคิดๆ ดูก็ไม่ได้มีฉากที่พระเอกเสียท่าเท่าไหร่นะ โดนอัดลงไปกระอักเลือด อย่างนี้ไม่มี ก็เลยสรุปว่าที่ 007 ดูติดดินขึ้นเป็นเพราะหน้าตาแกนั่นแหละ(วกกลับมาเรื่องนี้จนได้)
แล้วก็ไม่มี Q กับเครื่องมือสุดไฮเทคออกมาเลย T_T ดู 007 เพราะชอบเครื่องมือของเฮียแกนี่แหละ
สรุป ว่า หนังสนุกดี ถ้านับเป็นหนังธรรมดา แต่ด้วยคาดหวัง(ของหนู)ในความเป็น James Bond ในจินตนาการ ตัวอคติเลยมากระซิบว่า "ไม่สนุกๆ" รวมๆ แล้วก็เลยรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้นะ ไม่มีฉากไหนประทับใจหรือไม่ชอบเป็นพิเศษอีกต่างหาก เลยไม่มีอะไรเม้าท์
เรื่องย่อไปหาอ่านตาม web แล้วกันนะ ดูแล้วจับใจความไม่ค่อยได้รู้แต่มันไล่ยิงกัน หุหุ
แล้วตอนบ่ายเราก็ไปดู SCAR 3D ก็รอดูว่าเทคโนโลยี HD-3D ที่ไม่ต้องปวดหัวกับแว่นแดงฟ้าอีกต่อไปมันจะเป็นอย่างไร พอดูแล้ว ........
จอร์จ: มันเป็นเทคโนโลยีที่ดีจริงๆเลยซาร่า!!!
ซาร่า: มันดียังไงรึจอร์จ??
จอร์จ: ด้วยเทคโนโลยีนี้เราจะไม่ต้องปวดหัวกับแว่นแดงฟ้าอีกต่อไป โยนแว่นแบบเก่าทิ้งไปได้เลย!
ซาร่า: โอ้! พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก.......แล้วมันทำงานอย่างไรล่ะ
จอร์จ: มันก็ให้เราปวดหัวกับแว่นสีชาแทน สีแดงฟ้าน่ะสิ
ซาร่า: ........
มันก็ปวดหัวอยู่ดีค่ะ แต่เปลี่ยนแว่นให้ดูไฮโซขึ้น แต่ไม่รู้เพราะสวมทับแว่นสายตาหรือเปล่านะ เลยทำให้ดีกรีความปวดหัวเพิ่มขึ้น สรุปว่ามันก็แว่นอันเดียวกับที่ดู Journey to the center of the earth นั่นแหละ
เข้าเรื่องหนัง พูดถึงตัวหนังคิดว่าทำได้ดีเลยล่ะ แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องดี ภาพที่ทำออกมาเป็น 3D สวยมาก(title สวยมาก ดูเพลินเลย) แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่จะทำเป็น 3D ไปเพื่อบิดามารดาหรือไง
อย่าเพิ่งร้องอ้าว! ไหนบอกดีไงล่ะ ดีน่ะดี แต่ 3D ที่ทำออกมาไม่มีเลือดกระเซ็นมาโดนตัวหรือมีดพุ่งมาใส่หน้า(หรือว่ากอง censer เมืองไทยเอาฉากพวกนั้นออกไปหมดแล้ว) 3D มันสวยก็จริงแต่สวยในแง่ที่เหมือนได้ดูคนตัวเป็นๆ มาแสดงหนังผีให้ดูต่อหน้า ประมาณว่าดูละครเวทีอยู่ ซึ่งเทียบกับอาการปวดหัวที่เพิ่มขึ้นแล้วทำให้ความลุ้นลดน้อยถอยลงไปแล้ว ขอเลือกดูแบบ 2D จะดีกว่า ช่วงกลางเรื่องปวดหัวจัด ฉากที่ไม่ใช่ไคล์แมกซ์ ก็เลยถอดแว่นดูซะเลย จะเห็นตัวละครเป็นหลายๆตัวเหมือนทีวีไม่ชัด พอฉากมันทรมานกันค่อยใส่แว่น
เรื่องย่อ : นางเอกเคยเป็นเหยื่อของฆาตรกรโรคจิต แต่ฆ่ามันแล้วหนีออกมาได้ หลังจากนั้นเธอก็ออกไปอยู่นอกเมือง และเธอก็กลับมาเพื่อร่วมงาน(อะไรสักอย่าง)ของหลานสาว และแล้วก็มีฆาตรกรที่ห่าโดยวิธีเดิมโผล่ออกมา ไม่มีใครเชื่อเธอว่ามันกลับมาแล้ว แต่กลับจับเธอเป็นผู้ต้องสงสัยแทน เธอจะต้องหนีออกไปเพื่อช่วยหลานสาวที่หายไปให้ได้
ชอบบทของเรื่องนี้ตรงที่เกมที่ฆาตรกรเล่น (Spoil เล็กน้อย แต่ถึงรู้ก็ไม่ทำให้ความสนุกลดลงหรอกมั้ง) เขาจับคนสองคนที่เป็นเพื่อนกันมาทรมาน โดยคุณสามารถหยุดการทรมานนี้ได้ โดยการบอกให้เขาฆ่าเพื่อนของคุณซะ ถ้าปฏิเสธก็โดนทรมาน แล้วเขาก็จะหันไปถามเพื่อนคุณแทนว่าต้องการให้ฆ่าคุณหรือไม่
ถ้าลองคิดดูเป็นคำถามที่น่ากลัวมาก ว่าเราจะยอมทนทรมานได้สักเท่าไหร่กว่าที่จะยอมสั่งฆ่าใครสักคน(และยิ่งคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทด้วยแล้ว) การบอกให้ฆ่านั้นทำเพื่อตัวเอง หรือว่าทนเห็นเพื่อนทรมานไม่ได้แล้วกันแน่ ถ้าบอกให้ฆ่าไปตั้งแต่แรกเราก็จะไม่โดนทรมานเลย แต่แน่นอน ว่าคุณต้องเล่นเกมนี้กับคนต่อไปเรื่อยๆ และบอกให้ฆ่าทุกคนไปเรื่อยๆ เราจะทำอย่างนั้นได้หรือ? หรือว่าเราจะยอมโดนทรมานสักสองสามครั้งก่อนจะทนไม่ไหว เราควรจะหยุดการทรมานในครั้งนี้ แล้วรอเริ่มใหม่ในเกมหน้า หรือว่าทนทรมานต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเพื่อนจะบอกให้ฆ่า เราจะได้ไม่ต้องทนเล่นเกมบ้าๆนี้ต่อไป
และถ้าเราสั่งให้ฆ่าใครสักคนไป แล้วรอดมาได้ ความรู้สึกผิดจะเกาะกินในไปนานเท่าไรกันนะ.....