วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

สี่แพร่ง + What happens in Vegas + Deception -------->[1]

เมื่อศุกร์ที่แล้วได้หยุดงานเนื่องในวันพืชมงคล (ทดแทนกับที่ไม่ได้หยุดวันแรงงาน) เพราะว่าหยุดตามศิริราช ตอนเย็นก็นัดน้องสาวและพี่เต่าไปดูหนัง ตอนกลางวันก็เลยเอาตังค์ไปเข้า + ไปดูหนังอีก 2 เรื่อง
วันนั้นก็เลยดูหนังไป 3 เรื่อง(อีกแล้ว) ดังนั้น entry นี้ก็เป็นการ spoil อีกแล้วนะคะ
เรื่องแรกที่ไปดูตอนเช้าคือ สี่แพร่ง
ที่ไปดูเพราะอยากจะรู้ว่ามันน่ากลัวหรือเปล่า เพราะคิดว่าหนังสั้นๆ 4 เรื่อง มันจะ built ไม่ขึ้น กำลังจะกลัวก็จบแล้ว และไม่มีใครยอมไปดูด้วย ฤกษ์งามยามดี ก็เลยเปลี่ยวใจไปดูหนังผีคนเดียวซะเลย
ดูแล้วก็ใช้ได้ ไม่ได้รู้สึกกลัวสุดๆ อย่างที่ใครๆบอก แต่ความจริงหลังๆก็เริ่มรู้สึกแล้วล่ะว่าถึงไปดูก็คงไม่กลัวเท่าไหร่ จากที่พี่ไกด์บอกว่าไม่ค่อยน่ากลัว กับการที่น้องสาวฟัง spoil จากเพื่อนมาแล้วบอกว่าเธอคงไม่กลัวหรอก แล้วก็ถามว่าเธอเคยดูหนังผีเรื่องไหนแล้วกลัวมากบ้างล่ะ(แบบให้ 10 แต้ม) มานึกๆดู ไม่มี!! ส่วนใหญ่ที่ดูแล้วกลัวจะเป็นลุ้นมากกว่าว่าตัวเอกจะโดนผีฆ่าหรือเปล่า ดังนั้นกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยหลอนเท่าไหร่
สรุปได้ว่าตัวเองดูหนังผีไม่ค่อย work ต้องดูที่มันออกแนว thriller หน่อยๆ แต่ก็ยังไปดูอยู่ดี
**หมายเหตุไว้ก่อนเลยว่า ที่เขียนข้างล่างเนี่ย คงจะบ่นซะส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้แปลว่าหนังไม่ดีนะ เดี๋ยวคนไม่ได้ดูจะพาลเข้าใจผิด หนังก็ทำออกมาได้ดี น่ากลัว จับความสนใจผู้ชมได้ แต่ไม่มีเรื่องจะชมสักเท่าไหร่ ดังนั้นที่จะบ่นคือทำไมดูแล้วถึงไม่กลัว
แพร่งแรก-เหงา
โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องนี้ที่สุด เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงที่เหงาเพราะอยู่ในห้องเช่าคนเดียว และก็มีคนส่ง SMS มาคุยกับเธอทำให้คลายเหงาไปได้ แต่คนส่งดันตายไปแล้วซะนี่
ที่ชอบเพราะว่าเรื่องดำเนินไปช้าๆ แล้วค่อยๆ เฉลยออกมา มีตอนลุ้น ตอนพัก จนสุดท้ายถึงลุ้นสุดๆ และที่ชอบอีกอย่างคือ เรื่องนี้เขาไม่พูดเลย ส่ง SMS อย่างเดียว (จนคิดว่านางเอกเป็นใบ้หรือเปล่า) มาเซ็งตอนสุดท้ายที่ผีโผล่ออกมา รู้สึกเหมือนเอารูปถ่ายสมัยหนุ่มๆ(รูปขาวดำ แบบที่มันเหลืองแล้วน่ะ) มาแฮ่ใส่ ตกใจก็ตกใจอยู่หรอก เพราะว่ากำลังลุ้น ว่าเมือไหร่ผีจะออกมา แต่ว่าไม่เห็นซะจะดีกว่า T-T หรือเพราะที่บ้านมีรูปอากง อาม่าติดอยู่เห็นมาแต่เด็กเลยไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวหว่า ??
แพร่งที่สอง-ยันต์สั่งตาย
เรื่องย่อๆ คือ มีนักศึกษาคนหนึ่ง(ซึ่งเป็นลูกสัปเหร่อ)โดนแกล้ง ก็เลยทำพิธีแช่งให้พวกที่แกล้งเขา ว่าใครมองตาคนตายที่ตายตาไม่หลับ จะต้องตายตามไป ดังนั้นพอคนนึงตายแล้วคนที่เหลือมองหน้าเพื่อนตัวเองก็จะตายตามไป
ดูแล้วเหมือนเป็น Final Des ฉบับ fast forward ด้วยความที่เร็วไปนี่เองเลยไม่ค่อยลุ้น ดูแล้วก็งงๆ ว่าใครมองตาใครไปหรือยัง อย่างคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ความจริงรู้สึกว่าน่าจะมองตาเพื่อนไปตั้งนานแล้ว หรือตำรวจที่ตายไปเนี่ยเป็นเพราะไปมองตาใครหรือเปล่า อย่างนี้ตำรวจคนอื่นจะตายด้วยมั้ย (มัวแต่คิดอย่างนี้สิถึงไม่กลัว) ส่วนตอนจบที่ควักตาออกมาก็พอจะเดาได้ กำลังคิดอยู่เลยว่าให้เย็บตาติดกัน แล้วก็ผีหน้าตาเหมือนกอลลัมเลย หรือไม่ก็เหมือน ET (สรุปผีโผล่มาไม่กลัวอีกแล้ว)
ปล. ฉากเสียบเสาธงนึกถึงเรื่อง 999-9999 เลยอ่ะ
แพร่งที่สาม-คนกลาง
ดูจบแล้วก็รู้สึกว่าคนกลางมันไม่ใช่ point ของเรื่องนี่นา (อ้อ! เรื่องนี้ไม่ใช่หนังผี เป็นหนังตลก)
เป็นกลุ่มเพื่อนสี่คนไปล่องแก่งกัน แล้วก็เถียงกันว่าใครจะนอนริมเพราะกลัวผี แล้วก็มีเพื่อนคนนึงบอกว่าถ้าตายไปจะมาหลอกคนนอนกลางก่อนเลย แล้ววันรุ่งขึ้นเรือยางที่ล่องแก่งกันก็ล่ม แล้วคนนั้นก็จมน้ำหายไป (สรุปเลยไม่มีใครกล้านอนกลาง) แต่ว่าพอกลางคืนเขาก็กลับมา โดยไม่รู้เป็นผีหรือคน
จบก็เหมือนจะหักมุม แต่ลอก the other มานี่นา แล้วก็เล่นมุกทั้งเรื่อง ขนาดหน้าสิ่วหน้าขวานมันยังเล่นมุกอีก แถมผีตอนที่วิ่งไล่กันรู้สึกเหมือนพวกบ้านฝีปอป(ไปคิดถึงได้ไปไม่รู้) แต่ก็มีตอนที่ลุ้นๆนิดหน่อยเหมือนกัน แล้วก็รู้สึกว่าศพ น่ากลัวกว่าผีอีก
จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ทำให้หลอนกลับมาบ้านมากสุด ตรงที่ตอนเริ่ม(ที่เถียงกันไม่นอนริม) มีการเล่าเรื่องว่าเคยมีคนนอนริมแล้วเจอผีผมยาวมานั่งอยู่ตรงปลายเท้า ก็เลยหลอนว่านอนอยู่จะมีใครมานั่งตรงปลายเท้า (ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องของหนังเลย)
แพร่งสุดท้าย-เที่ยวบิน 224
เรื่องของแอร์ที่ต้องเดินทางกับศพเพียงคนเดียว(เพราะเพื่อนดันมาไม่ได้) ที่ศพไม่ให้เอาเข้าใต้ท้องเครื่องเพราะว่าเป็นเจ้าหญิง(ของประเทศสมมติ) ซึ่งพลอย(แสดงเป็นแอร์ในเรื่อง) ก็ดันมีความแค้นกับเจ้าหญิงเพราะไปเป็นชู้กับเจ้าชาย และในตอนที่เจ้าหญิงมาพลอยก็เป็นแอร์ประจำเที่ยวบินเหมือนกัน แล้วด้วยหลายๆเหตุผล พลอยเอาสปาเกตตี้กุ้ง(น่าจะเป็นขี้เมา) ให้เจ้าหญิงกินโดยคีบกุ้งออกไป ทั้งๆที่รู้ว่าเขาแพ้กุ้ง หลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ตาย (เพราะเหตุนี้หรือเปล่าไม่รู้)
เรื่องนี้น่าจะน่ากลัว แล้วก็เป็นเรื่องที่คนบอกว่าหลอนที่สุด แต่รู้สึกไม่ค่อยหลอนเลย เพราะ
- เหตุผลสำคัญคือ ตอนนั้นปวดฉี่อยู่ หนังใกล้จบแล้ว ดันกินน้ำเยอะไป ก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิกับหนัง
- รำคาญกัปตัน น่าจะจับให้ผีหักคอไปด้วยเลย ผู้หญิงเขาต้องอยู่กับศพคนเดียว ไม่เห็นใจบ้างเลย สงสัยเป็นสมุนของเจ้าหญิง
- ที่เขาบอกกันว่าหลอนเสียงอ้วก ก็รู้สึกว่ามีเสียงอยู่แทนที่จะหนีไป ดันเดินไปดูซะนี่ อีกอย่างเสียงฟังดูน่าสงสารมากกว่า(ถ้าไม่คิดว่าเป็นผีอ่ะนะ)
- ผีหน้าตาไม่ค่อยหลอน ปิดหน้าไว้ดีกว่านะ (อีกแล้ว)
สรุปคือกลัวผีที่แอบๆอยู่ไม่เห็นหน้ามากกว่า เพราะจินตนาการเอาเองน่ากลัวกว่า
แค่เรื่องเดียวก็ยาวยืดแล้ว อีกสองเรื่องแบ่งไป entry หน้าแล้วกันนะ

1 ความคิดเห็น: