หลังจากดูกังฟูแพนด้าจบแล้ว เราก็ไม่รอช้า วิ่งไปดู The Happening ที่ paragon ต่อเลย
เรื่องนี้จัดในข่ายอยากดูเลยล่ะ มันโฆษณาว่าเป็นผู้สร้าง(หรือเขียนบทนี่แหละ) เดียวกับ six sense และ the sign น้องสาวบอกว่าชอบ six sense แต่ไม่ชอบ the sign ตอนแรกอยากดูเรื่องนี้เพราะ poster มันแปลกดี ที่มีรถเปิดประตูค้างอยู่แล้วไม่มีใครอยู่ในรถ แต่พอได้ดูตัวอย่างหนังก็รู้สึกว่าชอบแฮะ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าจู่ๆ ก็มีโรคระบาดหรือมีผู้ก่อการร้ายปล่อยสารอะไรไม่รู้ทำให้คนตาย ซึ่งพระเอกก็ต้องหนีทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ไปลอง search ดูตามแต่ละ web เรื่องนี้ได้คะแนนห่วยเชียว แต่ไปเจอ web นึงคนเขียนเขาบอกว่าเรื่องนี้ใช้ได้ แต่ต้องไม่คิดจะหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะสุดท้ายหนังก็ไม่ได้ตอบ คนอาจจะผิดหวังเพราะจุดนี้ แต่โดยเนื้อเรื่องแล้วสนุก หลังจากอ่านแล้วอารมณ์อยากดูก็พุ่งพรวด ยิ่งเขาบอกว่าคนสร้างเรื่องนี้มีสร้าง lady in the water, the village และ unbreakable ด้วยแล้ว (ความจริง 2 เรื่องหลังไม่ได้ดู แต่น้องบอกว่า the village ดี และเราก็ชอบ lady in the water ด้วย) คิดได้ดังนั้นก็ลากน้องไปดูซะ ซึ่งน้องสาวก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เพราะยังไงก็ออกตังค์ให้อยู่แล้ว
ซึ่งก็สนุกอย่างที่คิด สยองดี เรื่องอาจจะไม่ค่อยมีอะไรสำหรับคนชอบดูหนังที่หวือหวา แต่เรื่องทำออกมาได้กดดัน ตรงที่มีคนตายไปมากขึ้นเรื่อยๆ (เหมือนจะตายหมดโลก แต่ความจริงเหตุการณ์เกิดขึ้นแค่ส่วนหนึ่งของอเมริกา) และสรุปแล้วก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดเพราะอะไร เชื้อโรค? ผู้ก่อการร้าย? สารพิษ? หนังแสดงให้เห็นคนหลากหลายประเภท วิธีการเอาตัวรอดที่แตกต่างกัน และความสับสนของผู้คนเมื่อไม่รู้ว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างไร น้ำใจ และความเห็นแก่ตัวที่เกิดขึ้น
spoil นะ -> อาการจะเริ่มจากพูดจาไม่รู้เรื่อง เช่น พูดประโยคเดิมซ้ำๆ หรือพูดอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมาประโยคหนึ่ง และจะมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ (ในเรื่องจะแสดงด้วยการเดินถอยหลังไป 1-2 ก้าว) แล้วสุดท้ายก็จะฆ่าตัวตาย ตามท้องเรื่องเขาบอกว่า คนเราจะมีระบบควบคุมไม่ให้มีการทำร้ายตัวเองหรือป้องกันอันตราย แต่อาจมีสารบางอย่างเข้าไปยับยั้งการทำงานของระบบนี้ และให้มันทำงานย้อนกลับ ผลก็คือทุกคนฆ่าตัวตาย ฉากที่สยองสุดๆ คือแต่ละฉากที่มีการฆ่าตัวตายนี่แหละ มีทั้งเอาปิ่นปักคอตัวเอง เอาหัวโขกฝา นอนให้รถตัดหญ้าทับ โดดตึก ยิงตัวตาย ดูแล้วเหมือนฉากฆ่าตัวตายหมู่ แต่ต่างกันที่ว่าไม่ใช่ทุกคนจับมือแล้วโดดลงมาพร้อมๆ กัน แต่เหมือนต่างคนก็ต่างโดดลงมาทีละคนสองคน ตอนยิงตัวตายก็มีคนแรกยิงก่อน แล้วคนต่อไปก็ไปเก็บปืนมายิง แล้วคนต่อไปก็ไปเก็บปืนมายิงอีก เสียงยิงปืน ปังๆๆ มันชอนไชเข้าไปในโสตประสาทมากๆ (ทำให้นึกถึงเรื่อง the mist ขึ้นมาตะหงิดๆ)
แต่ทุกคนทำอะไรไม่ได้ นอกจากสันนิษฐานกันเอาเอง แล้ววิ่งหนีจากที่ๆ มีคนตายไปแล้ว และหวังไว้ว่ามันจะจบลงสักที ซึ่งตามสถิติแล้วโรคระบาดหรืออะไรก็ตามมักจะมีกราฟที่โตจนถึงจุดสูงสุดแล้วลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราก็ได้แต่ภาวนาไปกับตัวละคร
สุดท้ายมันก็จบโดยทิ้งปริศนาไว้ว่าเพราะอะไร? และมันจะเกิดอีกหรือไม่?
ข้อสันนิษฐานหนึ่งก็คือ เรากำลังทำร้ายต้นไม้และโลกใบนี้มากเกินไป จนตอนนี้มันกำลังจะเอาคืนแล้ว......................