ไปแอบเจอที่เขียนไว้นานแล้วเกี่ยวกับ yes man ก็เลย up ซักหน่อย
นานมากแล้วที่ไม่ได้ดูหนังในวันที่รุ่งขึ้นเป็นวันทำงาน (อาจจะเรียกว่าไม่เคยเลย เพราะปกติไปดูตอนที่วันรุ่งขึ้นเป็นวันเรียน) สรุปว่า น่าจะตั้งแต่เรียนจบนั่นแหละ(ถ้าจำไม่ผิดนะ) คิดแล้วก็รู้สึกว่าเวลาเรียนช่างสุขสบาย เลิกเรียน 4 โมงก็ชิ่งไปดูหนัง กลับมาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตื่นไม่ไหว เพราะเริ่มเรียนตั้ง 9 โมง ถ้าตื่นไม่ไหวจริงๆ ก็โดดซะเลย อิอิ (อันที่จริงหนูไม่ค่อยได้โดดนะคะ O.O)
กลับมาที่เรื่องหนัง ดูตัวอย่างก็คงจะรู้แล้วว่าเรื่องนี้สอนให้เรารู้จักเปิดรับโอกาส และสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต เรื่องนำเสนอโดยอีตาพระเอกที่เป็น "No man" คือประมาณว่าใครถามอะไรพี่แกปฏิเสธหมด - -" จนวันหนึ่งเขาได้ไปเข้าร่วมสัมมนา ซึ่งสอนให้ผู้เข้าร่วมตอบรับกับโอกาสที่เข้ามาในชีวิต หลังจากนั้นชีวิตก็ดีขึ้นหลังจากเขาเริ่ม say YES!
ความเห็น(spoil) :
หนังทำได้ตลกดี บางมุขก็ออกแนวทะลึ่งไปบ้าง แต่ว่าโดยรวมก็ไม่ใช่หนังตลก แบบจะเอาแต่ตลกอย่างเดียว(แบบนั้นไม่ชอบดูอ่ะ) ดูจนจบยังไม่ค่อยเข้าใจว่าตกลงพระเอกมันกลายเป็น No Man เพราะเมียทิ้ง หรือว่าเมียทิ้งเพราะมันเป็น No Man ก็ไม่รู้ (เหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันเลยเนอะ) แต่ชอบเพื่อนสนิทพระเอกมากๆ ดูเขาเป็นคนใส่ใจเพื่อนดี โทรมาตามจิก เดินมาตามถึงบ้าน (เป็นฉันนะ ช่างหัวมัน อยากจะนอนตายอยู่บ้านก็อยู่ไป)
ส่วนการสัมมนานั่นก็เหมือนลัทธิอะไรสักอย่าง(โครตน่ากลัวเลย) ชอบการผูกเรื่องที่หลายๆอย่างที่พระเอก say yes ไป มามีประโยชน์ในภายหลัง ความซวยอย่างบังเอิญทุกครั้งที่เกิดเมื่อพระเอก say no ออกจะทำให้น่าสงสารพระเอกไปหน่อย สุดท้ายตาม style หนังก็สอนว่าเราต้องให้โอกาสตัวเองแต่ต้องคิดด้วยไม่ใช่ yes ไปซะทุกอย่าง
ปล. ชอบชมรม photo jogging มากๆ เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น