ถ้าถามว่าน๊าน...นาน... น่ะมันแค่ไหน ถ้าจากวันแรกที่คุยกับน้องสาวก็เป็นหลายปีก่อนไปจริง แต่มาเริ่มวางแผนจริงประมาณเดือนมีนาคม ก่อนไปประมาณ 8 เดือน อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เริ่มคิด หาข้อมูลใน internet และไปซื้อหนังสือท่องเที่ยวมานั่งอ่าน ด้วยรู้ว่าตัวเองเรื่องเยอะ บ้าข้อมูล อีกทั้งตั้งเป้าไว้ว่าจะวางแผนให้เสร็จก่อนขอวีซ่า ซึ่งการวางแผนล่วงหน้านานๆ มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ถ้าจองโรงแรม และตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าจะถูกกว่า มีเวลาหาข้อมูลและแก้ไข แต่ข้อเสียก็คือ เสียเวลาทำอย่างอื่นค่ะ เพราะแก้แผนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่นั่นแหละ ไม่เสร็จสักที
สำหรับวิธีวางแผนขอเล่าคร่าวๆ ก่อน(อาจจะมีคนคิดว่านี่คร่าวแล้วเหรอ) ถ้ามีเวลาเขียนต่อ รายละเอียดข้อมูลที่หามาได้และวิธีวางแผนอย่างละเอียดจะมาเขียนเล่าสู่กันฟังอีกรอบนะ
วางแผนไปญี่ปุ่นกันเถอะ
ลำดับการวางแผนไปญี่ปุ่นของแต่ละคนอาจจะต่างกันไป ถ้าคนที่อยากจะจำกัดงบจริงๆ อาจจะตั้งงบก่อน ค่อยดูว่าจะไปไหน ถ้าใครมีสถานที่ในดวงใจแล้วก็เริ่มจากกำหนดที่เที่ยวก็ได้ หรือใครที่ธุรกิจรัดตัวก็อาจจะเริ่มจากกำหนดวันก่อน แต่สำหรับวิธีการวางแผนไปญี่ปุ่นของยู้จะมีลำดับตามนี้
หาข้อมูล -> กำหนดจุดประสงค์ & วันที่ -> กำหนดงบประมาณ -> วางแผนเที่ยวแบบคร่าวๆ -> หาข้อมูลเพิ่ม (หาที่เที่ยว & ที่พัก & การเดินทาง) -> กำหนดแผนเที่ยวอย่างละเอียด -> จองที่พัก -> ลางาน -> ขอวีซ่า -> จองตั๋วเครื่องบิน -> ซื้อ JR Pass -> เตรียมของให้พร้อม -> ออกเดินทาง!!!
จะไปเมื่อไหร่??? จะไปไหนดี???
การวางแผนไปญี่ปุ่น(ตามที่ยู้คิดเอาเอง) มีสามวิธีหลักๆ ค่ะ
- ลอกการบ้าน – เป็นวิธีแสนง่าย หาเอาตามที่เขา review ใน internet หรือตามหนังสือ แล้วไปตามนั้นเลย แต่สาว group AB อย่างเราจะไปทำอะไรเหมือนคนอื่นได้อย่างไรจริงไหม
- กำหนดวันก่อนแล้วค่อยหาที่เที่ยว ว่าในวันที่เราจะไปนั้นมีเทศกาลอะไรที่ไหน และจุดไหนน่าเที่ยว
- กำหนดที่เที่ยวก่อนแล้วค่อยกำหนดวัน คิดไว้ก่อนเลยว่าอยากไปตรงนี้ และค่อยดูว่าในที่นั้นไปช่วงไหนถึงจะสวยที่สุด
โชคดีที่ทั้งยู้และน้องไม่มีข้อจำกัดด้านเวลามากนัก(สามารถลางานได้ยาวๆ ขอแค่วางแผนแจ้งหัวหน้าไว้ล่วงหน้า) เราจึงสามารถเลือกได้ตามสบายว่าจะไปเมื่อไหร่ ไม่ต้องรอให้ถึงหยุดยาว แต่ในความโชคดีนี้กลับมาสร้างความลำบากในการเลือกว่าจะไปที่ไหนและไปเมื่อไหร่ ต้องมาหาข้อมูลกันล่ะทีนี้
-- หาข้อมูล --
แหล่งข้อมูลแรกสุดของยู้เลยก็คือหนังสือ อ่านแบบสนุกๆ ไปสักสองเล่ม เพื่อให้ได้ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นก่อน การหาข้อมูลจะได้ไม่สะเปะสะปะเกินไป เพราะญี่ปุ่นก็มีที่เที่ยวเยอะพอกับเมืองไทย ถ้าจะดูทั้งหมดคงถูกข้อมูลทับตายเป็นแน่แท้ ประกอบสิ่งที่เคยอ่านเจอในการ์ตูนและตามเว็บ จึงสรุปทางเลือกได้ 3 จุดประสงค์ยอดฮิตในการไปญี่ปุ่น คือ
- ซากุระ
- ใบไม้เปลี่ยนสี
- หิมะ
หิมะเป็นอันตัดทิ้งไป เพราะยู้ได้ไปกับเพื่อนมาแล้ว จึงเหลือซากุระกับใบไม้เปลี่ยนสี พอหันถามน้องพร้อมกับกำลังจะไล่ข้อดีข้อเสีย น้องก็ตอบกลับมาทันทีว่า “ไปดูใบไม้แดงสิ ดูซากุระไปดูต้นชมพูพันธ์ทิพย์แถวอังรีดูนังก็ได้ คล้ายๆกัน” ความปวดหัวในการเลือกจึงเป็นอันจบไปด้วยความงดงามของดอกไม้ในเมืองไทย
หมายเหตุ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้บนถนนอังรีดูนังยังมีชมพูพันธ์ทิพย์เหลืออยู่หรือเปล่านะคะ
-- กำหนดวัตถุประสงค์ & วันที่ --
แม้จะรู้ว่าจะไปช่วงใบไม้แดงแล้ว แต่ฤดูนี้ก็ยังกินเวลาถึง 3 เดือน และสถานที่เที่ยวจะต่างกันไปตามช่วงเวลา ความจริงอยากไปแถวคันไซ แต่เห็นรูปของคนอื่นๆ แล้วก็กลัวคน ยู้กับน้องเป็นพวกไม่ชอบคนเยอะๆค่ะ ต้องรักกันจริงๆถึงจะยอมไปฝ่าฝูงชน นั่งพิจารณาอยู่นานก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักที ก็เลยเปลี่ยนใหม่ หันมาทำรายการ “จุดประสงค์การไปญี่ปุ่น” ก่อนดีกว่า ว่าแล้วยู้ก็หันไปหาตัวช่วย
“น้องสาว จะไปญี่ปุ่นเธอมีที่ไหนอยากไปหรือมีอะไรอยากทำไหม”
“ไม่รู้อ่ะ กินทาโกะ กินชาเขียวมั้ง”
“เอาให้มันเจาะจงหน่อยสิยะ”
“งั้นเดี๋ยวไป search ก่อน”
หลายวันถัดมาน้องสาวก็ส่งสถานที่และสิ่งที่อยากทำมาให้ เอามารวมกับของยู้เองได้ตามนี้
แผนไปญีปุ่นของยู้และน้องสาว
Concept
- เน้นเที่ยว หรือพักผ่อน : เน้นเที่ยว อาจมีพักผ่อนชิวๆสักหนึ่งวัน
- เวลาในแต่ละจุด : ให้เวลาแต่ละจุดในการเดินดูให้ทั่วๆ แต่ไม่ถึงกับดื่มด่ำ อยากถ่ายรูปด้วย(แต่ใช้กล้อง compact นะ)
- การกิน : ไปทั้งทีขอกินอาหารญี่ปุ่น แต่ไม่ถึงกับทัวร์กิน
- ที่พัก : ไม่ต้องดีมาก เพราะแค่ซุกหัวนอน ขอเป็นห้องน้ำในตัว (ยกเว้น 1 วันจะนอนเรียวกัง)
- การเดินทาง : เดินไกลๆได้ / ไม่กลัวร้อน / ไม่กลัวแดด แต่น้องสาวขี้หนาว และเมารถ
จุดประสงค์(เรียงตามลำดับ)
- Disneyland
- Onepiece (เรือ Onepieceในสวนสนุก Huis ten bosh)
- ใบไม้แดง
- ซื้อโดจินชิ
- ปลาดิบ
- ชาเขียว (เมืองอุจิ)
- ทาโกะยากิ
แนะนำสำหรับคนวางแผนที่จิตใจโลเลเหมือนยู้ อยากไปหลายที่ แต่วันและงบจำกัด เขียน Concept การเดินทางพร้อมจุดประสงค์ไว้ก่อนเลย ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจเลือก ย้อนกลับมาดูจะช่วยได้มากค่ะ
จากลำดับความสำคัญของการไปเที่ยวข้างต้นยู้จึงกำหนดวันเดินทางได้ด้วยเหตุผล 3 ประการ
- Disneyland เป็นเป้าหมายแรกของเรา สุดท้ายยู้เลยตกลงใจจะไปในช่วงคาบเกี่ยวตุลาคม-พฤศจิกายน เพื่อให้ได้เจอทั้ง Haloween Event(ในเดือนตุลาคม) และ Chisrtmas Event(ในเดือนพฤศจิกายน)
- ในเมื่อเป้าหมายที่สองเป็นสวนสนุก Huis ten bosh ที่อยู่ไกลลงไปถึงฟุคุโอกะแผนเที่ยวของเราก็เลยต้องล่องใต้ไปโดยปริยาย
- พยายามให้วันที่อยู่ในเดือนพฤศจิกายนมากกว่า เพื่อให้ใบไม้เปลี่ยนสีมากขึ้น(ความจริงแล้วช่วงเวลาดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดควรจะเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน)
สรุปแล้วยู้จึงได้วันออกเดินทาง 27 ตุลาคม อันเป็นเสาร์สุดท้ายของเดือน และคาดว่าจะอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์
-- กำหนดงบประมาณ --
เมื่อได้วันและที่อยากไปคร่าวๆ แล้ว เราก็มาลองคำนวณงบประมาณดูว่าเกินจากที่เราตั้งใจไว้ไหม ถ้าเกินงบก็จะได้ตัดวัน ตัดที่เที่ยวออก หรือถ้าต่ำกว่างบเผื่อว่าจะเพิ่มวัน เพิ่มความหรูหรา หรือว่าจะเก็บเงินไว้ใช้ทริปหน้าก็ไม่ผิดกติกาใดๆ
งบประมาณที่เราต้องนำมาคิดส่วนใหญ่ยู้จะคิดเกินๆ ไว้ก่อน เผื่อไปโปะกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด แต่ถ้าใครมีงบจำกัดจริงๆ อาจจะคิดในอัตราต่ำกว่านี้ก็ได้นะคะ ค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้ที่ญี่ปุ่นมีดังนี้
- ค่าเครื่องบิน – ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท แล้วแต่สายการบิน สำหรับ Direct flight
- ค่าที่พัก – ที่พักราคาถูกในญี่ปุ่นจะเป็นประเภท Hostel / Guest house / Business hotel ซึ่งถ้าคิดต่อคนต่อคืนแล้วมีตั้งแต่ราคา 2,500 เยน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องรวม ไปจนถึงมากกว่า 6,000 เยน ถ้าต้องการนอนห้องเดี่ยว โดยส่วนตัวยู้จะประมาณไว้ที่ 4,000 เยน ต่อคนต่อคืนค่ะ
- ค่าอาหาร – ประมาณ 3,000 เยนต่อวันต่อคน
- ค่าเดินทาง – JR Pass, Shinkansen, ค่าเดินทางจุกจิกในวันที่ไม่มี JR หรือใช้ JR ไม่ได้
- ค่าสถานที่ท่องเที่ยว และบัตรผ่านประตูต่างๆ – เฉพาะส่วนที่แพงและมีผลต่องบของเรา เช่น ค่าเข้า Disneyland, Universal studio แต่ถ้าเป็นค่าเข้าปราสาท หรือสวนต่างๆ ที่ไม่เกิน 1,000 เยน เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่ยังไม่ได้กำหนด อาจจะเอาไปรวมในหัวข้อสุดท้าย(อื่นๆ จิปาถะ) ก็ได้
- ค่าที่พัก/อาหาร พิเศษ – ถ้ามีวางแผนว่าจะนอนเรียวกัง หรือกินอาหารหรูๆสักมื้อ ก็แยกค่าใช้จ่ายออกมาให้เห็นๆ เลย
- ของฝาก/Shopping – คนที่ญาติเยอะ หรือเป็นสาวนักช็อป อย่าลืมบวกไว้เลยนะคะ
- อื่นๆ จิปาถะ – กินขนม, ค่าผ่านประตูเล็กๆน้อยๆ, บริจาค, ซื้อแผ่นป้ายอธิฐาน ฯลฯ วันละ 1,000 – 2,000 เยน
สรุปว่าแผน 2 สัปดาห์ของยู้มีงบประมาณดังนี้
ตั๋วเครื่องบิน 20,000 บาท
ค่าที่พัก (13 คืน) 4,000 x 13 52,000 เยน = 18,200 บาท
ค่าอาหาร (14 วัน) 3,000 x 14 42,000 เยน = 14,700 บาท
JR Pass 14 Days 45,100 เยน = 15,785 บาท
Disneyland 4-days passport 16,000 เยน = 5,600 บาท
Huis Ten Bosh Ticket 5,700 เยน = 1,995 บาท
เรียวกัง พร้อมอาหารเย็น 15,000 เยน = 5,250 บาท
ของฝาก 10,000 เยน = 3,500 บาท
จิปาถะ 1,500 x 14 21,000 เยน = 7,350 บาท
รวม 92,380 บาท
**คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 35 บาทต่อ 100 เยน
ยู้ตั้งงบไว้ไม่เกิน 1 แสน ดังนั้นคงจะไม่ต้องตัดรายการใดๆ ออก ตอนวางแผนจริงน่าจะเห็นว่าค่าที่พักจริงเป็นเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายคงจะลดลงอีก ที่เหลือก็คือภาวนาอย่าให้เงินเยนแข็งขึ้นเถอะ เพี้ยง!!!!
Note: โดยปกติยู้จะตั้งงบแบบง่ายๆ ที่ 5 หมื่น บาทต่อ 7 วัน แต่บอกงบเพื่อนๆ ไปแบบนี้ทีไรโดนบ่นว่าแพงทุกที แหมไปทั้งทีก็ไม่อยากมัวแต่คิดว่าเงินจะพอหรือเปล่า อีกอย่างถ้าตั้งงบไว้เยอะ แล้วเหลือ จะรู้สึกดีกว่าตั้งไว้น้อยแล้วเกินงบ (แต่ไม่เหมาะกับคนที่เห็นงบเหลือแล้วต้องใช้ให้หมดนะคะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น