วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น...สองสามวัน... : วันที่. 12 : Obara : Wed. 07/11/2012

          ไม่ทันไรก็ผ่านมาครึ่งทริปแล้ว วันนี้เรา Check-out อำลาโอซาก้า และมุ่งสู่นาโกย่า เพื่อต่อรถไปที่บ้านนอก ดูซากุระนอกฤดูที่จะบานพร้อมๆ กับใบไม้แดงค่ะ ถ้าจะไปให้ทันรถบัสเที่ยวแรกต้องเปลี่ยนรถทั้ง 2 ครั้ง ด้วยความเร็วสูง แถมยังต้องเอากระเป๋าไปฝากอีกด้วย ก่อนอื่นเราก็เอากระเป๋าไปฝากตู้หยอดเหรียญที่สถานี NAGOYA ก่อน แล้วต่อรถไฟไปถึงสถานี TOYOTASHI ซึ่งสรุปแล้วก็ไปไม่ทันรถบัสเที่ยวแรกค่ะ T_T ก็เลยต้องไปนั่งหนาวอยู่แถวนั้น และเข้าไปหลบหนาวใน Mcdonald ก่อน เพราะว่ารถบัสรอบต่อไปต้องรออีก 2 ชั่วโมงค่ะ



Obara วิธีเดินทาง : นั่งรถ local ไปลงสถานี Toyotashi แล้วนั่งรถเมล์ต่อไปจนสุดสาย


Toyotashi ดูเป็นเมืองเล็กๆ ไม่มีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่


มีที่ Charge รถไฟฟ้าด้วย สมเป็นเมืองของ TOYOTA


          พอไปถึงก็พบความจริง 3 ข้อ คือ หนึ่ง ใบไม้แดงและซากุระมันยังไม่ถึงช่วง Peak ซึ่งความจริงก็ทำใจไว้บ้างแล้ว แต่ก็คิดว่าเอาวะ สักครั้งนึง สอง คนส่วนใหญ่ที่มาเป็นคนญี่ปุ่น(อันนี้รู้อยู่แล้ว) และ สาม เขาขับรถกันมาค่ะ!!! เนื่องจากจุดชมซากุระแต่ละจุดไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กันเลย ทางเดินก็เป็นทางขึ้นเขา รถบัสก็น้อย ผู้หญิงสองคนนี้ก็เดินย่ำต็อกกันสองคน แต่ถึงแม้จุดมุ่งหมายจะยังไม่งามเท่าที่ควร แม้น้องสาวจะบ่นกลัวงู กลัวหมี ตลอดทาง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีในการไปเที่ยวในที่ห่างไกลเมืองนะคะ

          ตอนไปถึงเราแวะลงที่จุดแรกกันก่อน จุดนี้เป็นจุดที่สามารถดูต้นซากุระได้ใกล้ชิดที่สุด และมีร้านอาหารมาเปิดเป็นซุ้มๆ อยู่ด้วย เราก็เลยจัดการกินไทยากิ และโอเด้งแทนข้าวเที่ยงซะ(คุณคนขายโอเด้งแถมให้อันนึงด้วยค่ะ ^^) หลังจากนั้นเราก็เดินบ้าง ขึ้นรถบัสบ้างไปตามจุดต่างๆ แต่ละจุดก็มีซากุระมากน้อยต่างกันไป และมีร้านอาหาร ร้านของฝากอยู่บ้างร้านสองร้านค่ะ จนกระทั่งมาถึงจุดสุดท้าย เนื่องจากตอนเช้าเรามาไม่ทันรถรอบแรก ถ้าจะกลับรถบัสรอบบ่ายสองครึ่งก็จะไม่สามารถขึ้นไปดูซากุระในจุดสุดท้ายได้ทัน เพราะจุดสุดท้ายต้องเดินต่อไปจากป้ายรถบัสป้ายสุดท้ายขึ้นไปอีก(ไหนจะต้องเดินกลับลงมา ซึ่งต้องใช้เวลาพักใหญ่) เราจึงต้องเลือกว่าจะอยู่เที่ยวจุดสุดท้าย ซึ่งจะต้องเสียเวลารอรถเที่ยวต่อไปในอีก 2 ชั่วโมง และอาจทำให้ไม่สามารถไปกินข้าวที่นาโกย่าตามที่วางแผนไว้ หรือว่าจะยอมทิ้งจุดสุดท้ายซึ่งเขาบอกว่ามีซากุระมากที่สุด และกลับเลย

มาถึงจุดแรกเดินๆ เจอซากุระแค่ประมาณนี้แหละ


ใบไม้แดงก็ยังเพิ่งจะเริ่มๆ


อย่างน้อยก็ได้เห็นน่า ซูมๆ ซากุระหน่อย


แวะกินข้าวอะไรกันก่อนเลยดีกว่า มีซุ้มขายโน่นนี่อยู่หลายซุ้มเหมือนกัน


ไทยากิ


โอเด้ง ดึ๋ง ดึ๋ง


ทางเดินขึ้นเขาอันไร้ผู้คน


จุดที่ใบไม้แดงแล้ว จะมีซากุระ ก็มีเหมือนกัน แต่ต้องพยายามหาเอาหน่อย


เดินๆ ไปก็เจอต้นที่มีดอกเยอะเหมือนกัน


          ด้วยการฟันธงของน้องสาวว่าไหนๆ ก็มาแล้วก็ดูให้ทั่วๆ ดีกว่า(มารู้ทีหลังว่าน้องสาวลืมไปว่ารถรอบสุดท้ายต้องรออีก 2 ชั่วโมงไม่ใช่ชั่วโมงเดียว) เราก็เลยมุ่งหน้าไปตามถนน(แบบขึ้นเขา)ไปดูซากุระจุดสุดท้ายกัน ด้านบนมีต้นซากุระเยอะมากจริงๆค่ะ มีทั้งตรงจุดที่เขาจัดงาน และในหุบเขาข้างๆทางซึ่งมองจากถนนลงไปเห็น แต่เราไม่ได้พยายามหาทางลงไปในหุบเขาตรงนั้น เพราะฟ้าเริ่มมืดแล้ว สาวสวย(เหรอ?)สองคน เดี๋ยวจะเป็นอันตราย แถมกลัวหลง กลัวงู กลัวผีด้วย 555+

มองลงไปจากถนน เห็นด้านล่างก็มีอยู่หลายต้น


          ตรงจุดนี้มีวัด สามารถเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ และมีทางเดินเลาะไปในเขาชมต้นไม้ได้ด้วยค่ะ เดินวนไปวนมาสักพักหนึ่งพอให้คุณลุงคุณป้าแถวนั้นแปลกใจแล้ว เราก็เดินกลับเพื่อไปรอรถเมล์ ระหว่างทางกลับคุณลุงที่เป็นเจ้าหน้าที่จราจรอยู่แถวนั้น(ดูแล้วเหมือนประมาณเป็นอาสามาช่วยงานล่ะมั้ง) ก็ทักและพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นชุด หันไปหาน้องสาวน้องสาวก็ฟังไม่รู้เรื่อง คิดว่าคุณลุงคงจะเป็นห่วงผู้หญิงสองคนนี้มาเดินท่อมๆ อะไรตอนใกล้มืด หลังจากพยายามสื่อสารกันอยู่พักหนึ่งคุณลุงคงคิดว่ามันฟังไม่รู้เรื่องแน่แล้วจึงโบกมือ แล้วบอกให้ระวังตัวด้วย(คำนี้น้องสาวฟังออก)

วัดอยู่ด้านบน ก็ต้องปีนๆๆ ขึ้นไป


จุดนี้มีซากุระเยอะจริงๆ พอหามุมสวยๆ ถ่ายภาพได้ ไม่รู้ว่าช่วงอื่นดอกมันจะเยอะกว่านี้หรือเปล่านะ


มีหลายต้น แต่ออกแนวห่างไกล เพราะต้องยืนถ่ายภาพอยู่นอกรั้ว


          ลงมาถึงด้านล่างปรากฏว่าเกิดปัญหาว่า หาป้ายรถเมล์ไม่เจอ!!! ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่เราลงเมื่อกี้ไม่มีป้ายอยู่ คิดว่าจะเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ อันนั้นก็ดูเปลี่ยวเหลือเกิน เราก็เลยเดินย้อนถนนลงมาเรื่อยๆก็ไม่เจอป้ายสักที พอดีหันไปเจอคุณลุงกำลังรดน้ำผักอยู่ก็เลยตะโกนถาม คุณลุงให้ความช่วยเหลืออย่างดีพูดช้าๆผสมภาษาใบ้ให้น้องสาวเข้าใจได้ สรุปว่าก็เดินเข้าไปในซอยเล็กๆนั่นแหละค่ะ เข้าไปถึงก็เห็นลานโล่งๆ อยู่ลานหนึ่งเป็นลานจอดรถเมล์ แต่รถเมล์ยังไม่มาหรอกนะคะ ฟ้าก็เริ่มมืด เราก็ยืนหนาวไป คุยกันไป

          สักพักคุณลุงที่รดน้ำผักอยู่ก็เดินเข้ามา คุณลุงคงรู้สึกว่าทำไมมันยังไม่ไปกันอีก ก็เลยมาทัก มาดูที่ป้ายให้แล้วก็บอกประมาณว่าต้องรออีกพักใหญ่กว่ารถจะมา ขอบคุณคุณลุงมากๆค่ะที่เป็นห่วง มาเที่ยวในจุดที่ไม่ค่อยมีคนต่างชาติแบบนี้ได้อีกอารมณ์นึงนะคะ รู้สึกว่าคนญี่ปุ่นบางคนจะงงๆ (หรือบางคนก็ดูปนรำคาญเล็กๆ เพราะเราพูดไม่รู้เรื่อง) แต่ก็เป็นห่วงเรา และให้ความช่วยเหลืออย่างดี

          ในที่สุดรถบัสก็มา หลังจากคุณคนขับทำความสะอาดรถเสร็จ เราก็ได้กลับสู่ความอบอุ่นในรถ ขากลับรถติดเล็กน้อยทำให้ถึงสถานีช้ากว่ากำหนด แต่เราก็ยังกลับมาจนถึง Nagoya ได้โดยสวัสดิภาพ ตอนแรกวางแผนไว้ว่าถ้ากลับมาเร็ว จะไปกิน Hitsumabushi ข้าวหน้าปลาไหล Style Nagoya แต่เวลาขนาดนี้ต้องรีบเอากระเป๋าและขึ้นรถไป Takayama แล้วล่ะ ก็เลยจบที่ซื้อข้างกล่องไปกินบนรถไฟอีกครั้งหนึ่ง

          รถที่ไป Takayama เป็น wide view ซึ่งเป็นขบวนที่ได้ชื่อว่าวิวสวยมาก แต่มืดขนาดนี้มองไม่เห็นอะไรแล้ว หลับดีกว่า คร่อก!! มาถึง Takayama ตอนสี่ทุ่ม คิดถูกที่จองโรงแรม country-hotel takayama ไว้ โรงแรมห่างจากสถานี แค่ข้ามถนน ราคาห้อง Twin แค่ 6,000 เยน ต่อสองคนเท่านั้นเองงงงงง

          Trick คือโรงแรมนี้ถ้าจองก่อนล่วงหน้านานๆ จะยิ่งถูกค่ะ ปัญหาคือตาม web ภาษาอังกฤษไม่มี Promotion นี้ ความพยายามครั้งที่1 คือ จองกับ web โรงแรม ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น ปรากฏว่าปัญหาคือในช่องที่ระบุชื่อจะต้องระบุเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ใส่ภาษาอังกฤษ หรือคะตากะนะ มันไม่ยอมให้ผ่าน ความพยายามครั้งที่ 2 คือ จองผ่าน Rakuten travel ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ปรากฏว่ามี Promotion นี้ใน web และสามารถจองได้ ฮูเร่!!!



Country-hotel takayama วิธีเดินทาง : ลงสถานี JR Takayama ออกจากสถานีจะเห็นโรงแรมเลย


Country-hotel takayama วันนี้จองแบบ Twin เพราะราคาเท่ากับ Double


ห้องน้ำก็ size มาตรฐานตามเคย


          โรงแรมนี้มี internet ให้นะคะ แต่ต้องลงไปขอยืมสาย lan จากที่ front หรือพกสายไปเองจากบ้านก็ได้ค่ะ

          วันนี้รูปไม่เยอะ มีแต่คำบรรยาย เพราะมัวแต่มึนๆ หลงๆ อยู่ลืมยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ ภาพส่วนใหญ่ที่ได้มาก็เลยมีแต่ต้นไม้ที่เราตั้งใจจะมาดูนี่แหละ

สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)

  • coin locker >>> 600 Yen

  • รถไฟไป-กลับ Toyotashi 1,240 x 2 คน >>> 2,480 Yen

  • รถ Bus ไป-กลับ Obara 1,300 x 2 คน >>> 2,600 Yen

  • อาหาร&ขนม&น้ำ ระหว่างวัน >>> 1,330 Yen

  • ข้าวกล่องรถไฟ (อาหารเย็น) >>> 2,300 Yen

  • โรงแรม Country-hotel takayama >>> 6,000 Yen

ค่าใช้จ่ายไม่รวม Shoppingรวม Shopping
วันนี้15,67015,670
รวม245,895281,570

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น