วันนี้รายการเที่ยวเป็นสิ่งที่ทำให้แผนเรางอก ต้องเสียเงินใหักับสายการบินเปลี่ยนวันกลับไทยเลยทีเดียว แต่ก็รู้สึกคุ้มที่ได้อยู่ดูงานนี้ One Piece Grand Arena Tour
เช้านี้เราต้องขึ้นชิงคันเซนเที่ยวเกือบๆ 7 โมงเพื่อไปเซนได พอ check out เสร็จก็เลยต้องรีบวิ่งไปที่สถานีกันล่ะ น้องสาววิ่งนำลิ่วๆ ไปพร้อมกับหันมามองว่าพี่สาวตามมาทันหรือเปล่า ก็ขามันเริ่มล้า สงสัยเที่ยวหลายวัน+กระเป๋าหนัก แต่ในที่สุดเราสองคนก็กระโดดขึ้นรถไฟทันพอดี
ความจริงที่ Toyoko Inn มีอาหารเช้าให้ ตอนแรกคิดว่าไหนๆ ก็มีอาหารเช้าแถมให้ก็อยากลองกินข้าวเช้าที่นี่ ห้องอาหารเปิด 7 โมงเช้า กะว่าลงมาตอนห้องอาหารเปิดพอดี และรีบกินรีบไป แต่ตอนที่มา check out ก็เห็นคนต่อคิวรอกินเพียบเลย เรามีทางเลือกว่าจะไปรถไฟรอบเช้าสุด แล้วไปหาอะไรกินดาบหน้า หรือว่าจะรอกินข้าวแล้วไปรถไฟรอบ 7:18 ซึ่งรถไฟรอบนี้จะเป็นขบวนที่วิ่งช้ากว่า ทำให้ไปถึงเซนไดช้ากว่ารอบแรก 45 นาที สรุปว่าเราเลือกรอบแรกค่ะ เพราะอยากไปถึงงานเร็วๆ
มาถึงสถานีเซนไดแล้วก็เลยขอแวะหาอะไรกินก่อน ไม่รู้ว่าไปถึงที่จัดงานแล้วจะมีอะไรกินหรือเปล่า เดินๆ ไปก็เจอร้านโซบะ/ราเมงแบบ fast food อยู่ร้านนึง เป็นแบบหยอดเหรียญแล้วกดปุ่มหน้าร้าน ก็เลยเข้าไปกินค่ะ ร้านจะเป็นแบบยืนกิน สำหรับให้กินไวไปไว แทบไม่มีเก้าอี้เลย มีแต่เคาท์เตอร์ให้ยืนกิน เราเข้าไปเป็นลูกค้าคนแรกๆ ของร้าน ก็จับจองโต๊ะเก้าอี้ที่มีอยู่น้อยนิดซะ
วันนี้เอาอีกแล้ว สั่งโซบะที่ในรูปเห็นด้านข้างมีของทอดจานนึง ปรากฏว่าจานนั้นเป็น...ข้าวหน้าของทอด!!! ไม่ยอมจำสักทีว่าคนญี่ปุ่นกินราเมง พร้อมข้าวได้ ตอนเอาตั๋วไปส่งให้คุณป้าที่ทำอาหารก็พูดญี่ปุ่นอะไรสักอย่างกลับมา *@#$% ดีนะที่น้องสาวฟังออก คุณป้าบอกประมาณว่าถ้าอันนี้ต้องรอหน่อยนะ ก็เลยบอกว่า OK ไม่เป็นไรหรอกค่าาา ถ้าไม่โอเคแล้วจะทำยังไงหว่า สงสัยคงต้องคุยภาษาใบ้กันยาว เผลอๆ ยาวกว่าเวลารออาหารอีก แต่ความจริงรอแป๊บเดียวอาหารก็มา(ที่เขาถามคงเป็นเพราะร้านเป็นอาหารแบบจานด่วน ถ้าให้รอเดี๋ยวลูกค้าจะว่าเอา) อาหารทำเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ อร่อยเชียวล่ะ อยู่ที่นี่กินร้านไหนก็อร่อย(ยกเว้นอุด้งวันนั้น T_T)
ภายในร้าน
กินกันอิ่มหนำแล้วเราก็ขึ้นรถไฟต่อไปยังสถานี Nokanosake สถานีที่ใกล้สถานที่จัดงานที่สุด ความจริงมีพวกรถบัสไปถึงใกล้ๆ เลยนะ แต่ว่าไม่รู้ว่ามีรอบกี่โมงอย่างไรบ้าง นั่งรถไฟไปลงแล้วเดินไปนี่แหละน่าจะหลงน้อยสุด ตอนลงไปถึงสถานีก็พบว่ามีรถไฟขบวนหนึ่งจอดอยู่แล้ว ซึ่งดูๆ ก็น่าจะไปทางเดียวกันนี่นา ทำไมตอนเปิด Hyperdia ไม่เห็นมันแนะนำขบวนนี้ ว่าแล้วก็ขึ้นรถขบวนนั้นไปเลย(อยู่มานานเริ่มเปรี้ยวไม่กลัวหลง) นั่งไปเรื่อยๆ คนก็เริ่มลงไปเรื่อยๆ เราก็สังเกตว่ารถไปวิ่งมาตามสถานีเหมือนกับที่เราจะมา จนถึงสถานีนึงพอรถไฟจอด พนักงานก็เดินมาบอกเราว่า นี่สุดสายแล้วนะ ลงไปได้แล้ว(พนักงานคงรู้สึกว่าสองคนนี้มันไม่ยอมลงไปสักที) มิน่าล่ะ สรุปว่ารถไฟขบวนนี้มาทางเดียวกันแต่ไปไม่ถึง Nokanosake ค่ะ เราก็เลยต้องลงมาที่ชานชลา เพื่อรอรถไฟขบวนถัดไป ซึ่งความจริงเป็นขบวนเดียวกับที่ตอนแรกเราตั้งใจจะขึ้นนั่นแหละ
แอบเล็งบนขบวนเห็นเด็กวัยรุ่นอยู่นิดหน่อย น่าจะไปที่เดียวกันหรือเปล่านะ พอถึงปลายทางก็เห็นบางแก๊งค์เดินไปทางเดียวกันเหมือนกัน เราก็กางแผนที่&ดูป้าย&แอบดูว่าคนอื่นเขาเดินไปทางไหนกัน ในที่สุดก็เดินมาถึงที่จัดงาน One Piece Grand Arena Tour ได้โดยไม่หลงทาง ตอนไปถึงคนเข้าคิวกันยาวแล้วค่ะ เราก็เลยไปเข้าคิวกับเขาบ้าง ไม่นานก็ได้เข้าไปด้านใน
งานนี้จะมีแบบซื้อตั๋วล่วงหน้ากับซื้อหน้างาน ถ้าซื้อตั๋วล่วงหน้าจะถูกกว่า ซึ่งต้องไปซื้อที่ 7-11 มหากาพย์การไปซื้อตั๋วนั้นเริ่มจาก ตอนแรกเรานึกว่าเหมือนเมืองไทยคือไปบอกที่แคชเชียร์ แล้วเขาจะจัดการให้ แต่ไม่ง่ายอย่างนั้น ที่ญี่ปุ่นมีนวัตกรรมไฮเทค เครื่องถ่ายเอกสารซึ่งใช้จองตั๋วได้ด้วย แต่แน่นอนว่าเมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน จากการมั่ววันแรก ไม่สำเร็จ จึงต้องล่าถอยไปหาวิธีซื้อจากกูเกิล มาครั้งที่สองค่อยมั่วได้สำเร็จ ซึ่งต้องใส่ทั้งชื่อภาษาญี่ปุ่น(เราใส่เป็นคาตากานะไป) ทั้งเบอร์โทรญี่ปุ่น ดีนะที่มีเบอร์ของบลูซังอยู่ พอกดสั่งซื้อเรียบร้อย เครื่องก็จะพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษ แล้วให้ไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ถ้าใครอ่านญี่ปุ่นไม่ออกคิดว่าเรียกพนักงานมาช่วยคงจะได้ค่ะ แต่ไม่รู้ตอนใส่ชื่อ/เบอร์โทรจะทำยังไงนะ
มาถึงคนก็ต่อคิวกันยาว แล้ว
พอประตูเปิด แถวเริ่มขยับ ด้านในจะโต๊ะโชว์ว่ามีของที่ระลึกอะไรบ้างให้ซื้อตอนออก
เข้ามาถึงแล้วฟินมากกกกกกกก สำหรับแฟน One Piece ด้านในจะแบ่งเป็นโซนๆ ซึ่งเมื่อเราผ่านไปแล้วห้ามเดินกลับค่ะ เดินหน้าได้ทางเดียว เข้าไปถึงจะเจอจุดเริ่มต้นของการเดินทาง คือตอนที่แชงคูสมอบหมวกฟางให้ลูฟี่ >///< และตามมาด้วยฉากต่างๆ ตามลำดับเนื้อเรื่อง ฉากตอนที่โซโล, อุซป, ซันจิ, นามิเข้ามาเป็นลูกเรือ อ้อ พวกเจ้าหน้าที่จะใส่เสื้อยืด One Piece พร้อมหมวกฟาง เงยหน้าขึ้นไปบางทีจะเห็นตามเสาหรือกำแพงมีตัวอะไรจากในเรื่องเกาะอยู่ และป้ายทางหนีไฟยังเป็นคนใส่หมวกฟางด้วย
เข้ามาถึงก็เจอจุดเริ่มต้นของเรื่อง ตอนที่แชงคูสมอบหมวกฟางให้ลูฟี่
One Piece Grand Arena Tour
โซโล
แมรี่
เริ่มเรื่องด้วยการไปเจอลูกเรือแต่ละคน เริ่มจากโซโล
อุซป
แล้วก็มาเจอกับมิฮอว์ค
พนักงานหนุ่มแว่น ใส่หมวกฟางด้วย
คำสั่งจากทหารเรือ ส่วนนี้เข้าได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นนะ
ซันจิ
นามิ
ป้ายทางหนีไฟยังใส่หมวกฟางเลย
เมื่อจบโซนหนึ่งๆ จะมีฉากกั้นไว้เหมือนกำลังเข้าสู่อีกภาคหนึ่ง เช่น พอโซนแรกจบจะมีฉากตอนที่เข้าแกรนด์ไลน์กั้น ซึ่งถ้าข้ามฉากอันนั้นมาแล้วจะเห็นว่าอีกด้านมีป้ายบอกว่าห้ามย้อนกลับนะจ๊ะ เราเดินผ่านช่วงแรกของแกรนด์ไลน์ มาเจอชอปเปอร์ และเข้าสู่โซนอลาบาสต้า พบกับเหล่าสัตว์แปลกๆ และ No. ต่างๆ สู้กับครอคโคไดล์ แล้วใช้น็อคอัพสตรีมขึ้นสู่เกาะแห่งท้องฟ้า เจอลุงหัวเกาลัด เซาท์เบิร์ด ปราบก็อดเอเนลู แล้วกลับสู่ทะเลเบื้องล่างด้วยเจ้าปลาหมึก มาเจอแฟรงกี้ ช่วยโรบิน และลาจากแมรี่ (โมเดลตอนแมรี่พังนี่สมจริงมากจนน่าเศร้า) หลังจากนั้นก็มาเจอบรู๊คสมาชิกล่าสุดของกลุ่ม กับเหล่าซอมบี้ และโฮโลโฮโล่
แล้วก็เข้าสู่แกรนด์ไลน์
เข้ามาเจอลาบูนก่อนเลย
แต่ละจุดจะมีป้ายแบบนี้ติดอยู่ เป็นข้อมูลตัวละคร
เริ่มเข้าเหตุการณ์ที่อาลาบาสต้า
เจอ Miss Goldenweek
ระวัง Color trap ของมิสโกลเด้นวีคด้วยนะ
เผ่าคนยักษ์มาแค่หมวก
แต่มาครบคู่เลยนะ
เจอช็อปเปอร์ กับเหล่ากระต่ายหิมะ
โทรมเชียวนะ
บาร์กี้
Arabasta Museum
แสดงชุดของตัวละครต่างๆ Miss Doublefinger
Mr. 1
แล้วก็มีป้ายชื่อของสัตว์ต่างๆ ด้วย
Kang fu dugong
Miss Allsunday (โรบินนั่นเอง)
Mr. 0 (Crocodile) มีซิการ์ลอยอยู่ด้วย
ของต่างๆ จากในเรื่อง
Mr. 2
ด้านบนมีแขวนภาพเหตุการณ์เต็มไปหมด
ค้อน 5 Ton ของอุซป
Lufy Vs Mr.0
ฉากตอนจบภาคอันแสนซาบซึ้ง
เข้าสู่เกาะแห่งท้องฟ้า
พอผ่านโซนนึงจะมีป้ายบอกว่าห้ามย้อนไปแล้วนะจ๊ะ
เจอหัวเกาลัดของลุงมองบลัง
บ้านหลังใหญ่ของลุง
แต่เป็นแค่ฉากนะจ๊ะ ของจริงหลังเล็กอยู่ด้านนี้
South bird ถ้าจับหัวมันหันไปทางอื่นแล้วมันก็จะเด้งกลับมาทางเดิมด้วย
เปิดตัวเดอฟลามิงโก้
เกาะแห่งท้องฟ้า
ฉากต่อสู้กับ ก็อดเอเนลู
ร่ำลาเกาะแห่งท้องฟ้าด้วยน้องปลาหมึกลอยได้
เข้าสู่ Water 7
เจอ Franky แล้ว
การต่อสู้เพื่อโรบิน
เหล่า CP9
ลาก่อนแมรี่ T_T
USOPP FACTORY
อ้าว เจอบรูคตัวเบ้อเริ่มอยู่ด้านบน เข้าสู่ Thriller Bark
อีกด้านเป็นโมเรีย
อ็อซ และเหล่าซอมบี้
โฮโล โฮโล น่าร๊ากกกกก
เข้าสู่ฉากที่เจอบาโซโลมิวคุมะ ซัดกระเด็นไปคนละทิศละทาง แล้วลูฟี่ก็ไปเจอแฮนด์ค็อก และเข้าสู่อิมเพลดาวน์ และตามมาด้วยฉากสงครามที่นำไปสู่ความตายของเอส และหนวดขาว มีภาพย้อนอดีตตอนเด็กๆ และภาพความเสียใจของลูฟี่สักหน่อย ก่อนจะเข้าสู่ฉากของเกาะเงือก เจอเจ้าหญิงชิราโฮชิ หลังจากนั้นก็เป็นภาพ Design ของตัวละครในปัจจุบัน ก่อนจะออกมาเจอกลุ่มหมวกฟางทุกคนพร้อมซันนี่คอยอำลาอยู่
เข้าสู่เกาะชาบอนดี้ เจอโจรสลัดเก่งๆ หลายคนเลย
เห็นรอยนี้ สงสัยว่าคุมะซังอยู่ใกล้ๆ นี้หรือเปล่า
เจอตัวบาโซโลมิว คุมะแล้ว ตัวใหญ่มาก
เกาะโมโมอิโระ ที่ซันจิไปโผล่ และได้อยู่ฝึกในช่วง 2 ปีด้วย (และมีภาพของอีกหลายเกาะเลย)
โบอา แฮนค็อก
ลูฟี่ไปติดอยู่ที่เกาะอามาซอน ลิลี่
ชุดของแฮนค็อก
อีกชุดนึง
เข้าสู่อิมเพลดาวน์
ท่านพัสดี ตรงหน้าต้างนั่นเปิดปิดได้ด้วยนะ
คุกทั้ง 7 ชั้น
เข้าสู่ช่วงสงครามที่มารีนฟอร์ด เจอกลุ่มหนวดดำก่อนเลย
กลุ่มทหารเรือ กำลังคุมตัวเอสมาประหาร
ปะทะกลุ่มหนวดขาว และโจรสลัดที่จะมาช่วยเหลือ
ย้อนอดีตกับลูฟี่ เอส และ ซาโบ
ภาคย้อนอดีต ทำเอาเสียน้ำตาอีกละ
หลังจากเหตุการณ์ลูฟี่ก็ส่งสัญญาณว่าให้มาเจอกันอีกครั้งใน 2 ปี
หลังจากสองปี ทุกคนกลับมารวมตัวกัน
เข้าสู่ภาคเกาะเงือก
เจ้าหญิงชิราโฮชิ ขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับลูฟี่
เหตุการณ์ในเกาะเงือก พื้นจะเป็นสีฟ้าให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำ
หลังจากนั้นเป็นภาพตัวละครต่างๆ กลุ่มหมวกฟางยืนเทียบความสูงกัน
สุดท้ายก็เป็นเหล่าลูกเรือ และซันนี่มาส่งทุกท่าน
อ้าว!! หันมายังเหลืออีกนี่ มีหุ่นยนต์ของแฟรงกี้ด้วย(หมดจริงแล้วจ้า)
แน่นอนว่าท้ายสุดก็เป็นโซนขายของที่ระลึก และเล่นเกม มีกาจาปอง หลายรูปแบบให้ไขดู มีเกม Lucky bag ให้ตกถุงสมบัติ ถุงละ 1,000 เยน แล้วมาลุ้นเอาเองว่าข้างในถุงมีอะไรบ้าง ข้างในก็มีของหลายแบบ รวมๆกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า ที่ใส่มือถือ หรือกาจาปอง มีโมเดล One Piece แบบต่างๆ มาแสดงให้ดูให้อยากได้ด้วย และในที่สุดวันนี้ก็พ่ายแพ้กับกิเลส สอยโมเดลซันนี่กลับบ้านไปจนได้ ตอนแรกว่าจะซื้อเสื้ออีกตัวแต่รู้สึกว่าแพงก็เลยไม่ได้ซื้อ ยังเสียดายเล็กๆ อยู่จนวันนี้
ซุ้มให้ถ่ายรูปแล้วใส่ลงใน Poster WANTED
ตัวอย่างโมเดล One Piece หลากหลายแบบ
ฝั่งนี้แบบตัวเล็กๆ มีเยอะมากจริงๆ
เรือของโจรสลัดกลุ่มต่างๆ
มีให้ตกถุงด้วย คล้ายๆ สอยดาว ถุงละ 1,000 เยน จัดไปคนละถุง
ได้ถุงแบบนี้มา ข้างในจะเป็นของเกี่ยวกับ One Piece ขึ้นอยู่กับโชคว่าจะได้อะไรไปบ้าง
เราออกจากงานมาตอนประมาณเที่ยงครึ่ง พาความหิวโหยมาแวะทานข้าวกับลิ้นวัวย่าง ของดีเมืองเซนได ที่ร้าน Rikyu (ร้านตั้งอยู่ชั้น 3 สถานีเซนได) แล้วก็นั่งรถกลับมาโตเกียวมาเจอเซนเซย์ที่รอรับอยู่ที่สถานีโตเกียว เซนเซย์พาไปซื้อของก่อนที่จะพากลับบ้าน และทำสุกี้แบบญี่ปุ่นให้กิน นอกจากนั้นยังมีซูชิ และเค้ก ที่ซื้อมาด้วย กินไม่หมดกันเลยทีเดียว วันนี้เรานอนค้างที่บ้านเซนเซย์ เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะไปเที่ยวมิตาเกะกัน
ข้าวหน้าลิ้นวัว(กิวตัง) ที่ร้าน Rikyu
สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)
- Coin Locker >>> 300 Yen
- อาหารเช้า >>> 780 Yen
- Rikyu (อาหารเที่ยง) >>> 3,150 Yen
- ซื้อ model sunny >>> 3,990 Yen
- เกมตกถุง One Piece x 2 >>> 2,000 Yen
- ไขกาจาปอง >>> 400 Yen
ค่าใช้จ่าย | ไม่รวม Shopping | รวม Shopping |
วันนี้ | 4,230 | 10,620 |
รวม | 443,372 | 499,362 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น