วันนี้แผนตอนแรกคือจะไป Fuji High-Q แต่ด้วยความเหนื่อย ประกอบกับน้องสาวเริ่มป๊อด พอยู้ถามว่า “หรือจะไม่ไปแล้วตื่นสายหน่อยล่ะ” น้องสาวก็ตอบรับทันที และที่สำคัญคือน้องสาวอยากไป Lost&Found เพื่อเอาผ้าพันคอที่ลืมไว้บนรถไฟวันก่อน(บอกว่าซื้อใหม่ไปเหอะ ลำบาก ก็ไม่เอา) ก่อนหน้านี้ได้ไปติดต่อ Lost&Found ที่ Nagoya แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บริการดีมาก ติดต่อมาที่โตเกียวซึ่งเป็นสถานีปลายทางของรถไฟวันนั้นให้ และพบว่ามีผ้าพันคออยู่จริง เขาจึงแจ้งทางโตเกียวไว้ แล้วจดเบอร์ของมาให้เพื่อความรวดเร็วและสะดวกสบาย แต่พอดีว่าเมื่อคืนเรามาถึงโตเกียวดึก แผนก Lost&Found ก็ปิดไปซะแล้ว
วันนี้เราจึงตื่นสายเล็กน้อย แพ็คกระเป๋าใบเล็กสำหรับนอน 1 คืน และฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม เราจะกลับมานอนที่นี่ในคืนถัดไปค่ะ หลังจากนั้นก็ไปที่สถานีโตเกียวเพื่อเอาผ้าพันคอคืน ท่ามกลางเสียงบ่นงึมงำของพี่สาวว่าเปลืองค่ารถและเวลามาเอา เผื่อใครไม่รู้ สถานีโตเกียวมี Lost&Found 2 แห่งนะคะ ส่วนแรกเป็นของรถที่วิ่งภายในโตเกียว ส่วนที่สองเป็นของพวกชิงกันเซน ใครลืมไว้บนขบวนไหนก็ไปให้ถูกจุดด้วยนะจ๊ะ เข้าใจว่าคุณเจ้าหน้าที่ที่ Nagoya บอกเราไว้แล้ว แต่เราดันฟังไม่รู้เรื่อง ครั้งแรกเลยไปผิดจุด พอเอาหมายเลขของยื่นให้ไปปรากฏว่าไม่ใช่ผ้าพันคอ แถมมีคนรับไปแล้วด้วย คุณลุงเจ้าหน้าที่ก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ น้องสาวส่งภาษาญี่ปุ่นปนใบ้ทะเลาะกันอยู่นานมาก กว่าจะรู้ว่ามาผิดที่
หลังจากเดินหลงๆ อีกพักหนึ่งก็ไปถึง Lost&Found ที่ถูกต้องและได้ของคืนมาอย่างรวดเร็วและไม่มีปัญหา พอได้ผ้าพันคอคืนมาแล้วก็เกือบเที่ยง เราก็เลยไปหาอะไรกินกัน เดินๆ ผ่านเจอร้านขายออมเล็ต ก็เลยแวะเข้าไปกินสักหน่อย ซึ่งรสชาติอร่อยใช้ได้เลยค่ะ ซอสที่ราดมาก็เข้มข้นเข้ากับไข่ได้อย่างดี แต่ลืมดูชื่อร้านมาอีกแล้ว มัวแต่กินอย่างเอร็ดอร่อย
ซุป กับสลัดในชุด
ตามมาด้วยจานหลัก จานนี้ราดซอสสองอย่าง
จานนี้เป็นแฮมเบิร์ก
ไหนๆ วันนี้ก็ตัดโปรแกรมออกไปแล้ว กินเสร็จแล้วก็เลยแวะไปซื้อ JR East Pass เก็บไว้ก่อน พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่จองที่นั่งตามที่วางแผนไว้ให้เลยทีเดียว(เราวางแผนไว้ว่าจะใช้ Pass นี้ในช่วงใกล้ๆกลับ) เจ้าหน้าที่คนนี้น่ารักคุยด้วยท่าทางยิ้มแย้ม ไม่ถอนหายใจเหมือนเดิมแล้ว (แต่ความจริงญี่ปุ่นได้ขึ้นชื่อว่าบริการดี เจอเจ้าหน้าที่หน้าหงิกบ่อยๆ นี่คงซวยล่ะนะ) ได้ตั๋วจองทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อมาที่ Shinjuku เพื่อขึ้นรถ bus ไป kawaguchiko ความจริงตอนแรกจองที่นั่งไว้ตอนเช้า ซึ่งพอเปลี่ยนแผนก็เลยเป็นการ walk-in ซื้อตั๋วแทน ไปถึงพอดีมีรอบรถกำลังจะออก เราก็ได้ตั๋วและขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
หลับๆ ตื่นๆ ได้สักพัก เราก็ถึง kawaguchiko ประมาณบ่ายสองกว่าๆ วันนี้เราทุ่มทุนจองเรียวกัง Asafuji เอาไว้ ไปติดต่อ tourlist information ให้โทรไปแจ้งโรงแรมให้หน่อย เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลา check-in เลยยังไม่โทรให้ เราเลยเปลี่ยนแผนจากการเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อนมาเป็นเดินเที่ยวเลยก็ได้ เชอะ!! หอบหิ้วกระเป๋าไปท่องเที่ยวกันก่อนเลย
เนื่องจากตอนมาถึงฟูจิซังยังขี้อายหลบอยู่หลังเมฆ ก็เลยตัดประเด็นว่าจะขึ้น ropeway ออกไปได้เลย ก่อนอื่นเราไปซื้อ Ratrobus pass 2 วัน(1,000 เยนต่อคน) จะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องการจ่ายเงิน ทอนเงิน แล้วขึ้นรถ retro bus ไปชมใบไม้แดงที่จุดแรกกัน จุดแรกที่ไปลงคือ Kawaguchiko Herb Hall ตัว Herb Hall ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่สำหรับเรา แต่บริเวณนั้นมีสวนซึ่งมีใบไม้เปลี่ยนสีงามๆ อยู่ ประกอบกับวิวทะเลสาบสวยงามมาก จุดนี้อยู่ทางใต้ของทะเลสาบ ถ้าดูวิวทะเลสาบก็ไม่เห็นฟูจิอยู่ดี เหมาะเหม็งกับการมาเที่ยวตอนนี้ เดินไปเดินมาไม่ทันไรก็เกือบสี่โมงแล้ว เราก็เลยกลับมาที่สถานีเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ TIC โทรไปที่โรงแรมให้ใหม่ ชื่อจริงของยู้ขึ้นด้วยคำว่า “ดวง” ค่ะ ซึ่งคงจะอ่านยากมากสำหรับคนญี่ปุ่น ฟังเจ้าหน้าที่คุยกับทางเรียวกังพอถึงตอนที่บอกชื่อแล้วเขาก็ดูอึ้งๆ แอบฮาอยู่ในใจนิดๆ ว่าทำเขาลำบากหรือเปล่าเนี่ย แต่คิดว่าเพราะคงมีชื่อประหลาดอยู่คนเดียว ทางเรียวกังก็เลยรับรู้เรียบร้อยและจะส่งรถมารับ ถ้าใครจะจองอะไรที่ต้องโทรบอกเขาถ้าใช้ชื่อคนที่อ่านง่ายๆ จองไปก็ดีนะคะ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนญี่ปุ่น
Kawaguchiko วิธีเดินทาง : รถบัสมีทั้งออกจาก Shinjuku และ Tokyo และเมืองอื่นๆ ด้วย ดูรายละเอียดได้ที่ http://transportation.fujikyu.co.jp/english/index.html หรือถ้าไปรถไฟก็นั่ง JR ไปลงที่สถานี OTSUKI แล้วต่อ fujikyu railway ไปลงสถานี KAWAGUCHIKO
Kawaguchiko herb hall และ Oike park วิธีเดินทาง : นั่ง Retro bus จากสถานี Kawaguchiko ลงป้ายเบอร์ 7 Kawaguchiko Herb Kan
ตั๋วสองวันนั่งรถได้แค่รอบๆ Kawaguchiko
Herb Hall
ข้างในมีสมุนไพรนานาชนิด สำหรับเราที่ไม่ค่อยสนใจจะซื้อ ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีอะไร
เดินข้ามมาฝั่งตรงข้ามดีกว่า มีสวนอยูติดทะเลสาบ ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวย
มีร้านกาแฟด้วย
อันปังแมน ตอนเด็กๆชอบดูมาก
ตอนที่เลือกเรียวกังแถบนี้ยู้ใช้วิธีเลือกเรียวกังทั้งหมดรอบๆทะเลสาบขึ้นมาดู แล้วเทียบราคา, review และข้อมูลต่างๆ เงื่อนไขหนึ่งในนั้นคือต้องการให้ห้องเห็นวิวฟูจิพร้อมๆ กับทะเลสาบด้วย สุดท้ายตัดเหลือแค่ Hotel new century และ Asafuji ตอนแรกก็คิดว่าไป Hotel new century จะดีกว่าไหม เพราะมีคนใน pantip เคย review ไว้ด้วย แต่สุดท้ายก็เลือก Asafuji เพราะน้องสาวบอกว่ามันดูเป็นญี่ปุ่นมากกว่า ยังดีที่สามารถจองผ่าน rakuten ได้ ไม่งั้นคงต้องไปหาทางงม web ของ Asafuji ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน
รออยู่ไม่นานรถของเรียวกังก็มา คนที่ขับรถมาเป็นคุณลุง(คิดว่าเป็นเจ้าของนะ) คุณลุงถามก่อนว่าเราพูดภาษาญี่ปุ่นได้ไหม ซึ่งก็บอกไปว่าน้องสาวพูดได้นิดหน่อย ระหว่างทางไปคุณลุงก็คุยโน่นคุยนี่ให้ฟัง ว่าแต่ก่อนเคยมาเที่ยวเมืองไทยบ่อยเพราะแกสะสมผีเสื้อ เรื่องที่คนมาพักเรียวกังน้อยลง บอกว่าเพราะญี่ปุ่นมีข้อพิพาทเรื่องแย่งเกาะอะไรสักอย่างกับจีนอยู่นักท่องเที่ยวจีนเลยน้อยลง (และถ้าฟังไม่ผิดเหมือนลุงจะบอกว่าถ้าเป็นคนจีนจะไม่รับมาพักด้วย รักชาติสุดๆ) ทั้งหมดนี้คุยเป็นภาษาอังกฤษปนญี่ปุ่น โดยที่ส่วนใหญ่คุณลุงจะพูดภาษาอังกฤษมา แล้วน้องสาวพูดญี่ปุ่นไป ส่วนพี่สาวก็นั่งฟังแบบงงๆ
มาถึงเรียวกังแล้วคุณลุงก็ยังคุยกับพวกเราติดพันอยู่ จนคุณป้าที่ออกมาต้อนรับแอบทำตาเขียวใส่ เพราะว่าจะพาพวกเราขึ้นไปที่ห้องพักแล้ว พอขึ้นไปถึงคุณป้าก็จัดแจงเอายูคาตะมาวัดกับตัวเราเพื่อหา size ที่พอดีกับเราให้ (ความจริงดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างกันนะ) หลังจากชงชาไว้ให้กาหนึ่ง พร้อมวางขนมให้คนละชิ้น อวดวิวสวยๆ ของฟูจิตรงหน้าต่าง (ตอนนี้เมฆหายไปแล้วเห็นฟูจิชัดแจ๋ว) และถามเราว่าจะทานข้าวตอนกี่โมงแล้ว คุณพนักงานก็ปล่อยให้เรานั่งชิวๆ ในห้อง
Asafuji วิธีเดินทาง : ขอให้ tourist information โทรแจ้งที่พักให้มารับที่สถานี KAWAGUCHIKO หรือถ้าจะนั่ง retro bus ไปเอง ลงป้าย 13 Chobosakasafuji
ตึกด้านหลังนั่นแหละค่ะ Asafuji
ด้านหน้าตึก
มีป้าย Welcome ด้วย ชื่ออันแสนอ่านยากของเรา
ตรง Lobby
มีขายของนิดหน่อย
แผนที่ฟูจิ
แผนที่ดาวในฤดูต่างๆ ถ้ามองจากที่นี่
วิวจากหน้าต่างห้อง
ขนมและชาที่นำมาต้อนรับ
มาดูห้องกันหน่อย เข้ามาก็มีตู้รองเท้าพร้อมรองเท้าแตะให้ใส่ในเรียวกัง
ในห้อง
มีทีวีเครื่องไม่ใหญ่ และตู้เซฟ
ตู้เก็บเสื้อผ้า ด้านล่างมีใส่เสื้อไว้คลุมทับยูคาตะเวลาหนาว
เห็นประตูแอบเลื่อนดู เป็นตู้เก็บหมอนและฟูก แต่ไม่เห็นมีโดราเอมอนนอนอยู่นะคะ
มีโคมไฟเล็กๆ (จะถ่ายมาทำม๊ายยยย)
ห้องน้ำมีสองห้อง ห้องนึงเป็นห้องน้ำชักโครก
อีกข้างเป็นห้องอาบน้ำ(ที่ไม่ได้ใช้ เพราะไปอาบที่ออนเซ็น) ไม่ได้ถ่ายรูปตัวเองตอนใส่ยูคาตะมา อยากเห็นลายยูคาตะก็ลองส่องดูภาพยู้เล็กๆในกระจกนะคะ
ข้างในเป็นฝักบัว
มีอุปกรณ์อาบน้ำให้นิดหน่อย
เรานั่งจิบชา และเอาขนมที่ซื้อมาจากโตเกียววันก่อนมากินกัน ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตู น้องสาวเดินออกไปเปิดแล้วพบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนทำหน้าลำบากใจอยู่หน้าห้อง แล้วพูดประมาณว่าเราฟังญี่ปุ่นออกไหม พอน้องสาวบอกฟังออกเขาก็ทำหน้าโล่งอก แล้วบอกว่าขอเลื่อนเวลาอาหารเย็นออกไปจากที่เราแจ้งไว้ ไม่มีปัญหาค่ะ เพิ่งซัดขนมเข้าไปอิ่มพอดี มีเวลาเหลือเพิ่มขึ้นจากเดิม งั้นไปอาบน้ำแช่ออนเซ็นก่อนดีกว่า
ขนมซื้อมาจากเกียวโต
ออนเซ็นของที่นี่อยู่ชั้นบนสุด โดยในห้องเป็นกระจกมองเห็นฟูจิด้วย(วิวเดียวกับในห้องนั่นแหละ) แช่ไปก็ดูฟูจิไปถ้าน้ำไม่ร้อนมากขนาดนี้คงจะเพลินมาก อาบน้ำให้สบายตัวเสร็จเราก็ใส่ยูกาตะมาเกลือกกลิ้งในห้องรออาหารเย็นมา ไม่นานเขาก็เริ่มยกอุปกรณ์เข้ามา ตามด้วยอาหารทีละอย่างสองอย่างจนเต็มโต๊ะ ซึ่งนอกจากอาหารชุดปกติแล้ว เราได้สั่งซาซิมิไปหนึ่งลำเรือด้วย ตอนที่พนักงานมาเสริฟเขาก็ถามว่าเรากินเป็นใช่ไหม แขกบางคนเอาปลาดิบไปแกว่งในน้ำชาบูให้สุกก่อน โอ้ว!! เสียของเป็นยิ่งนัก ถ้าหนูจะอุตส่าห์สั่งเรือลำนี้มาแต่ดันเอาไปทำให้สุกนี่มันคงจะประหลาดพิลึกนะคะ
มีบอกข้อควรและไม่ควรทำในการอาบน้ำด้วย
แอบไปถ่ายมาตอนไม่มีคน ตะกร้าใส่เสื้อผ้า
กระจกแต่งตัว เครื่องเป่าผม และครีมต่างๆ
ในห้องอาบน้ำ มองออกไปเห็นฟูจิค่ะ
อาหารมาแล้วววว จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้างดูภาพเอาแล้วกันนะคะ
เกลี้ยงงงงงง อิ่มมากค่ะ
ทานข้าวเสร็จแล้วก็มีคนมาเก็บโต๊ะให้เราและเอาฟุตง(ฟูกแบบญี่ปุ่น)ออกมาปูให้ ซึ่งฟุตงนั้นนุ่มและอุ่นมากๆ จนร้อนเลยค่ะ ตอนดึกๆ เกิดอาการสับสนเพราะพอนอนอยู่ในฟุตงแล้วร้อน แต่พอเอาตัวออกมาข้างนอกก็หนาว เล่นเอานอนหลับไม่สนิทเท่าไหร่ เศร้า
พอทานเสร็จห้องอาหารถูกแปลงสภาพเป็นห้องนอน วันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)
- ข้าวห่อไข่ (อาหารเช้าควบเที่ยง) >>> 3,400 Yen
- เติม Suica 2,000 x 2 คน >>> 4,000 Yen
- JR east pass (20,000 + 16,000) >>> 36,000 Yen
- รถ Bus ไป Kawaguchiko 1,700 x 2 คน >>> 3,400 Yen
- retro bus pass 2 days 1,000 x 2 คน >>> 2,000 Yen
- เรียวกัง Asafuji >>> 28,000 Yen (จ่ายแล้วตอนจองจากไทย)
ค่าใช้จ่าย | ไม่รวม Shopping | รวม Shopping |
วันนี้ | 76,800 | 76,800 |
รวม | 339,485 | 378,215 |
เด๋วตามอ่านต่อ
ตอบลบ