วันนี้เราจะไปตะลุย Edo wonderland กันค่ะ เริ่มตอนเช้าด้วยอาหารฝีมือคุณลุงคุณป้า เป็นอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น มีปลาย่าง ไข่หวานย่าง ผักดอง และพวกของกินจุกจิกๆ อีกหลายถ้วย พออิ่มแล้วเราก็เก็บของและขอให้คุณลุงช่วยออกไปส่งเราที่สถานี เอากระเป๋าฝากไว้ที่สถานี แล้วรอขึ้นรถบัสฟรีไป Edo wonderland
อาหารเช้า Style ญี่ปุ่น จะดูบ้านๆ กว่าที่ Asafuji
ประกอบด้วยไข่ย่าง ปลาย่าง และผักดอง
ก้อนๆ นั่นเป็นหมูหรือไก่สับนี่แหละ พร้อมผักอีกสองอย่าง
ข้อดีของการขึ้นบัส คือ มันฟรีค่ะ ไม่ต้องเสียเวลา + ลำบากนั่งรถไฟไปต่อรถเมล์ เท่าที่หาดูไม่มีรถเมล์จาก nikko ไป edo wonderland โดยตรง ต้องนั่งรถไฟไปที่ kinugawa onsen ก่อน แล้วถึงนั่งรถเมล์ไปอีกต่อ(ลืมถามคุณลุงที่ TIC) แต่ข้อเสียสุดๆ ของมันเลยก็คือทำให้มีเวลาเที่ยวน้อยลงมาก เพราะรถบัสรอบแรกมาถึง edo wonderland เวลา 10:35 ส่วนรถรอบสุดท้ายออกจาก edo wonderland เวลา 15:20 ทั้งๆที่ park เปิดตั้งแต่ 9:00 – 17:00 (นี่หน้าร้อนนะคะหน้าหนาวก็ปิดเร็วขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมงทั้งเวลาปิด park และรถรอบสุดท้าย)
พอขึ้นมาบนรถก็เจอคุณลุงคนขับแต่งตัวแบบ edo ค่ะ น่ารักดี คุณลุงเห็นหน้าเราก็ถามว่ามาจากเมืองไทยหรือเปล่า พอเราพยักหน้าหงึกหงัก ก็ยื่นเอกสารภาษาไทยมาให้ รู้ได้ไงเนี่ยยยยยย หน้าพวกเรามีคำว่าคนไทยแปะอยู่เหรอ (แต่แถบ nikko นี่มีป้ายต้อนรับเป็นภาษาไทยหลายแห่งนะคะ สงสัยคนไทยเที่ยวเยอะ เขาเลยแยกได้) หลังจากนั้นก็นั่งชมวิวข้างทางผสมสัปหงก ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง
Edo wonderland วิธีเดินทาง : ขึ้น shutter bus ฟรีของ park จากสถานี Nikko หรือจะนั่งรถเมล์ไปเองจากสถานี Kinugawa onsen ก็ได้
คุณลุงยุคเอโดะ ผู้ได้ใบขับขี่รถบัสในยุคปัจจุบัน
ก่อนอื่นก็ต้องไปซื้อตั๋วก่อน เอาบัตรที่ print จาก web มาแสดง ได้รับส่วนลดค่าเข้านะคะ ที่นี่มีบริการให้แต่งตัวเป็นชาว edo เดินเที่ยวด้วย แต่ว่าด้วยความหนาว+เปลืองก็ขอบายดีกว่า แอบเห็นทีหลังว่าสาวๆ บางคนที่เช่าชุดมาใส่ดูจะบ่นหนาวกันนะ วันนี้ดูคนไม่ค่อยเยอะไม่รู้เพราะว่าเป็นหน้าหนาวหรือเปล่า
ที่เที่ยวใน park นี้มีหลายอย่างหลักๆ คือบรรยากาศโดยรอบที่จำลองเป็นบ้านเมืองสมัยเอโดะมา โดยมี mascot เป็นเจ้าเนียงมาเกะ แมวหน้าตายทำผมทรงซามูไร นอกนั้นก็จะมีบ้านประเภทนิทรรศการเล่าเรื่องสมัยเอโดะ, บ้านที่ออกแนวเครื่องเล่นสนุกๆ เช่น บ้านผีสิง เขาวงกต และที่เหลือก็จะเป็นการแสดงโชว์แบบต่างๆ ทั้งในร่ม และกลางแจ้ง
บรรยากาศเหมือนหลุดมาในยุคโบราณ อากาศก็ดี ฟ้ากำลังสดใสเลย
พระพุทธรูปข้างทาง
แต่ข้างๆ ดันเป็นเจ้าเนียงมาเกะ
สนใจแต่งตัวแบบไหนเชิญเสียเงินกันได้เลย (เรารับชำระด้วยเงินสมัยปัจจุบัน ไม่ต้องห่วง)
บ้านนินจา
รับจ้างแบกเสลี่ยง
ร้านร่มและรองเท้า
มีม้าด้วย
คุณคนนี้เหมือนจะเป็นนักแสดงเร่ร่อนอยู่ตรงข้างแม่น้ำ
พนักงานที่นี่ออกแนวจ้างมาให้ถ่ายรูป เรายกกล้องขึ้นมาถ่าย ถ้าเขาเห็นจะหันมายิ้มให้กล้องทันที(ดูสองรูปบนเป็นตัวอย่าง) อาจจะเพราะวันนี้คนไม่เยอะด้วย แต่ที่ชอบที่สุดคือเราจะได้เห็นซามูไรและนินจาออกมาเดินเพ่นพ่านให้เราถ่ายรูปกัน และไม่เดินเปล่า ออกมาเล่นละครให้เราได้ชมกันด้วยเป็นเหล่าซามูไรไล่จับนินจา(มั้ง)คนนึงที่ขโมยของ คุณนินจาก็เดินไปเดินมาเอาสติกเกอร์เนียงมาเกะมาแจกคนอื่นไปทั่ว พอปะกับซามูไร ก็วิ่งหายไปโน่น ส่วนพวกซามูไรก็เดินถือประกาศจับไปมาพยายามเทียบกับคนที่เดินผ่านไปมา น้องสาวเราใส่หมวกรูปนกเพนกวิน พอซามูไรเห็นก็ทำหน้าตกใจ ชี้นิ้วมาแล้วตะโกนว่า เพน-กวิน-ดะ!! ด้วย (อย่าจับหนูนะหนูไม่ได้ทำอะไรผิด) สุดท้ายซามูไรกับนินจาก็สู้กัน แล้วก็จับขโมยไปได้ในที่สุด (ความจริงแอบเชียร์คุณนินจานะเนี่ย อุตส่าห์แจกสติกเกอร์เรา 555+) พอนินจาโดนจับได้ คุณซามูไรจะให้มาถ่ายรูปนินจาตอนที่โดนจับเป็นนักโทษได้ด้วย
เจอตัวโจรแล้ว!!!
คุณซามูไรที่เป็นหัวหน้าออกมาช่วยสู้
การแสดงทั้งหมด(คิดว่าทั้งหมดนะ เพราะไม่ได้ดูหมด) เป็นภาษาญี่ปุ่น บางอย่างก็เน้นแค่ท่าทางและเพลง เราดูได้พอรู้เรื่อง แต่บางอย่างเช่น โรงละครเรียวโคคุบรรยายญี่ปุ่นซะเต็มที่ต้องใช้ทักษะการเดาอย่างยิ่ง การแสดงที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คือ การต่อสู้ของนินจาอิงะ กับนินจาโคงะในบ้านค่ะ ตื่นเต้นสุดๆ
ช่วงเที่ยงก็หาร้านอาหารในนั้นกินได้เลย นอกจากบ้านต่างๆ ที่เข้าได้ฟรีแล้ว เรายังมีบ้านที่จะดูดเงินท่านเพิ่มเติม ได้แก่ร้านขายของฝาก มีพวกดาบซามูไร ดาวกระจาย และของพื้นๆ พวก magnet แล้วก็ยังมีเกมให้เล่นด้วยมี 2 เกมคือยิงธนู และปาดาวกระจาย ได้ลองยิงธนูเล่นๆ เกมละ 500 เยน ได้ 5 ดอก ถ้ายิงเข้าเป้าก็จะได้รางวัลตามจำนวนครั้งทียิงเข้าเป้าด้วย ถ้าเข้าเป้าครบ 5 ดอกจะได้ตุ๊กตาเนียงมาเกะกลับบ้านไปเล้ยยยย เล่นไปคนละ 500 เยน ได้มาแค่ post card กับผ้าเช็ดหน้า
บ้านอะไรเนี่ย วนๆๆๆๆๆ
มีส่วนที่เป็นความรู้ด้วย(ถ้าเพียงเราจะอ่านมันออก) เกี่ยวกับการลงโทษและประหารในสมัยเอโดะ
รูปปั้นจำลองเรื่องราวสมัยเอโดะ
การแสดงต่อสู้บนเวที
อาหารเที่ยง
แรคคูน เจ้าที่ ???
แบกกระจาดไปขาย
ของรางวัลปลอบใจจากการยิงธนูไม่เข้าเลยสักดอก
เที่ยวไปเที่ยวมาก็ใกล้จะได้เวลารถบัสออกแล้ว ความจริงยังเหลือการแสดงอีกหลายอย่างที่ไม่ได้เข้าไปดู แต่ก็กลัวว่าดูแล้วจะวิ่งออกมาขึ้นรถไม่ทัน แถมพาเหรดโออิรันก็เดินหลังจากรถออกไปแล้วอดดูอีกต่างหาก ถ้านั่งรถเมล์ไป-กลับ แล้วจัดตารางดีๆ คิดว่าอาจจะดูได้ครบทุกอย่างนะคะ
เรากลับขึ้นรถบัสซึ่งมาส่งที่ JR Nikko แล้วก็ขึ้นรถไฟต่อไปยัง Utsunomiya เพื่อพักหนึ่งคืน
อำลา Nikko ด้วยวิวยามเย็น
ตอนนั้นถ้าถามว่าเมือง Utsunomiya นี้มีอะไรเที่ยวน่ะเหรอคะ ไม่รู้ค่ะ!!! (รู้แต่ดังเรื่องเกี๊ยวซ่า แต่ร้านอยู่ตรงไหนยังไงก็ไม่รู้) เมืองนี้เป็นเมืองที่สามารถนั่งรถมาจาก Nikko ได้ไม่ถึงที่นี่ดึกเกินไป และตอนเช้าสามารถนั่งรถไฟเที่ยวเช้าตรู่ไปถึงเซนไดได้ทันเวลาเปิดงาน แค่มาแวะนอนโดยแท้ ก่อนที่จะเข้าที่พักเราก็แวะห้างแถวนั้นแล้วไปหาอะไรกินกันก่อน เดินเจอร้านอาหารแนว Fast Food อยู่ร้านหนึ่ง ขายพวกกราแตงอะไรทำนองนั้น ท่าทางน่ากินก็เลยจัดการซะ
อาหารเย็น เป็นกราแตงแบบต่างๆ จำชื่อร้านไม่ได้ซะแล้ว
ขนมปังกระเทียม
มิโมซ่า
สลัด
อิ่มแล้วแล้วก็เข้าไป check in ที่โรงแรม Toyoko Inn Utsunomiya หน้าตาโรงแรมไม่ได้ถ่ายรูปมา(พักหลังเริ่มขี้เกียจ) แต่ก็เหมือนโรงแรมในเครือ Toyoko Inn ทั่วไปแหละนะ เจอคำแนะนำในการเปิดเครื่องปรับอากาศ ว่าให้เปิดกี่องศาเพื่อประหยัดไฟ จำตัวเลขแม่นๆ ไม่ได้(หน้าร้อนกับหน้าหนาวตัวเลขจะต่างกัน) แต่สองสาวไทยเห็นแล้วว่าถ้าเปิดตามคำแนะนำคงจะหนาวนอนไม่หลับเป็นแน่แท้ ก็เลยเปิดเป็น 25 องศาตามใจฉันแทน
อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยคืนนี้ก็ขอราตรีสวัสดิ์ก่อนล่ะจ้า
สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)
- ที่พัก Nikko @ Rindou-no-ie minshuku >>> 12,000 Yen
- Coin Locker >>> 300 Yen
- ตั๋ว Edo Wonderland 4,500 ลด 10% x 2 คน >>> 8,100 Yen
- อาหารเที่ยง >>> 1,800 Yen
- ขนม&น้ำ ระหว่างวัน + ของใช้จิปาถะ >>> 250 Yen
- เล่นเกมยิงธนู 500 x 2 >>> 1,000 Yen
- ของฝาก >>> 3,520 Yen
- อาหารเย็น >>> 1,147 Yen
- ที่พัก @ Toyoko Inn Utsunomiya >>> 6,790 Yen
ค่าใช้จ่าย | ไม่รวม Shopping | รวม Shopping |
วันนี้ | 31,387 | 34,907 |
รวม | 439,142 | 488,742 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น