วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น...สองสามวัน... : วันที่. 10 : Huis Ten Bosch : Mon. 05/11/2012

          นอกจากเมื่อคืนจะ check-in เกือบเที่ยงคืนแล้ว วันนี้เรา check-out กันตั้งแต่ตีห้า เพื่อไปให้ทันรถไฟรอบ 6 โมงเช้าค่ะ จาก HAKATA ไป HUIS TEN BOSCH ประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง ส่วนขนมปังที่ซื้อไว้เป็นข้าวเช้า ก็หอบหิ้วไปกินบนรถไฟค่ะ ทางที่รถไฟวิ่งไปเป็นทางเลียบทะเล และด้านข้างก็มีบ้านเรือนที่ทำนาอยู่ด้วย เป็นวิวที่สวยมากค่ะ แต่เพราะเมื่อคืนนอนน้อยก็เลยหลับ ไม่ได้ถ่ายรูปมามากนัก



HUIS TEN BOSCH วิธีเดินทาง : นั่ง JR ลงสถานี HUIS TEN BOSCH


วิวทะเลที่รถไฟวิ่งผ่าน


อีกด้านเป็นบ้านคน และเทือกสวนไร่นา


          ประมาณ 9 โมง เราก็มาถึง HUIS TEN BOSCH หลังจากฝากกระเป๋าแล้วก็เข้าไปซื้อตั๋วกันเลยยยยย มาถึงส่วนซื้อตั๋วก็เจอบรรดาลูกเรือกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางมารอต้อนรับอยู่แล้ว เราจัดการซื้อตั๋วรวมเครื่องเล่น ที่เล่นเครื่องเล่นได้เกือบทุกอย่าง (ยกเว้นบางอย่างต้องจ่ายเงินเพิ่ม อ่านเงื่อนไขกันดูนะคะ) ดูคนขายจะงงๆ ถามย้ำๆ แต่เราก็สามารถซื้อตั๋วมาได้เรียบร้อย

มาถึงแล้ว เป็นสะพานเดินไป เห็นโรงแรมสวยๆ อยู่ไกลๆ บรรยากาศคล้ายทางเข้า Disneyland เลย (ต่างกันแค่คนน้อยกว่า)


ขึ้นรถม้าเพื่อเข้าไปข้างในค่ะ (ใช่ซะที่ไหนล่ะยะ)


กรี๊ดดดด เจอแก็งค์หมวกฟางตั้งแต่ยังไม่ซื้อบัตรเลย


มีน้องทิวลิป เดินไปเดินมาอยู่ด้วย พอยกกล้องขึ้นมา นางก็พอยท์เท้าให้ถ่ายรูปค่ะ


หน้าตาบัตรรวมเครื่องเล่นที่ซื้อมาค่ะ


          จุดมุ่งหมายแรกของเราคือไปล่องเรือซันนี่ ซึ่งมันอยู่ด้านในสุด!!! สองสาวเร่งฝีเท้าให้เข้าไปถึงด้านในโดยเร็ว(แต่ก็ยังไม่วายขอถ่ายรูปวิวระหว่างเดินไปด้วย) ก่อนจะถึงโซนวันพีชเราต้องออกจากประตูสวนสนุกไปก่อน ดังนั้นเก็บตั๋วให้ดีๆ นะจ๊ะ ไม่งั้นเข้ามาใหม่อีกรอบไม่ได้ไม่รู้ด้วยนะเออ

เร่งฝีเท้าเดินไปยังซันนี่ก่อน แต่ก็ยกกล้องถ่ายแชะๆๆ ไปตลอดทาง


Teddy Bear Museum


ร้านค้า ร้านอาหาร เป็น style ฝรั่ง (เช้าๆ ยังไม่เปิดค่ะ)


คุณปู่คันนี้จอดนิ่งไม่ไปไหนแล้ว


ริมน้ำ


ถังขยะยังเข้ากับธีม


หอมันไม่เอนนะคะ ยู้ถ่ายภาพเบี้ยว >///<


          จุดแรกที่สะดุดตาเลยคือด้านหน้าร้านอาหาร(ที่ยังไม่เปิด) ด้านหน้ามีหุ่นของลอว์ ลาบูน และคุมะตั้งอยู่ หลังจากถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ เราก็มุ่งหน้าต่อ ผ่านโรงหนังวันพีช 3D ไป และแล้วก็เห็นซันนี่เทียบท่าอยู่ ก่อนอื่นเข้าไปซื้อตั๋วในตึกด้านข้างก่อนนะคะ คนละ 1,000 บาท ซึ่งเรือเที่ยวแรกจะออกตอน 10:00 ยังไม่ถึงเวลาเราก็ถ่ายรูปชิวๆ แถวนั้นไปก่อน ข้างซ้ายของซันนี่จะมีเรือแมรี่ลำจิ๋ว ให้ลงไปถีบเล่นได้ค่ะ(ประมาณเรือเป็ด แต่เป็นแมรี่แทน) ยู้ขอถ่ายรูปอยู่ด้านบนดีกว่า ลงไปถีบก็ไม่เห็นหน้าตาแมรี่สิ!!!

คุมะซังตัวใหญ๋มากกกกกกก


หมอลอว์


หมวกฟางครบทีม แต่เป็น 2D นะจ๊ะ


เห็นแค่ธงก็เริ่มฟินแล้ว


เรือลำน้อยของใครเอ่ย?


หลุดกับดักชุดแรกมาได้ในที่สุดเราก็เห็นซันนี่


มีแมรี่น้อยด้วย


สามารถลงไปถีบแมรี่เล่นกับมูร์มอได้ด้วย


บัตรขึ้นเรือ(โดนฉีกไปแล้ว)


          พอใกล้ๆ จะ 10 โมง เขาก็เปิดให้ขึ้นเรือค่ะ ด้านในจะมีทั้งหุ่นของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางขนาดเท่าตัวจริง ตั้งอยู่ในจุดต่างๆ ของเรือ(แต่ละคนตัวสูงซะจริง) ซึ่งตอนนี้เป็น Version 2 ปีต่อมาแล้วค่ะ เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เจอ Version ก่อน upgrade >.< ภายในเรือก็จะมีห้องต่างๆ เหมือนซันนี่จริงๆ ตั้งแต่หัวเรือซึ่งจะเห็นมีล็อคโพสอยู่ ต้นส้มของนามิ ห้องอาหารที่มีอาหารเต็มโต๊ะ(ฝีมือซันจิเขาล่ะ) ตู้เก็บอาหาร+ครัว ห้องเก็บเครื่องมือซ่อมของอุซป ปืนใหญ่ Dock ที่เก็บเรือลำเล็กๆ ไว้ โต๊ะปรุงยาของช็อปเปอร์ ห้องนั่งเล่นดูวิวใต้น้ำ ส่วนโถงต่างๆ ก็จะมีภาพของบรรดาลูกเรือ แผนผังเรือ ธงโจรสลัดต่างๆ ติดอยู่เต็มไปหมด มีโมเดลซันนี่ตั้งแสดงอยู่ด้วย ถ้าใครหิวบนเรือนี่ก็มีร้านขายขนมเล็กๆ ซึ่งของกินที่ขายบนเรือนี่ซื้อด้านล่างเรือไม่มีขายด้วยนะเออ

ถึงเวลาขึ้นเรือแล้ว ช่องซ้ายเป็นเรือถีบแมรี่ ส่วนขึ้นซันนี่เข้าช่องขวาไปเลย


ทางเข้าเรือ


มาชมดาดฟ้าเรือกันก่อนดีกว่า


โซโล


ลูฟี่ กัปตันของเรายืนอยู่ตรงหัวเรือเลย


ข้างๆ ลูฟี่ก็หันมาเจอแฟรงกี้


พวงมาลัยเรือบังคับ และล็อกโพส (และเด็กน้อยกับครอบครัว)


ขึ้นบันไดมาอีกด้านเจอบรูคทักทายอยู่


ด้านบนมีต้นส้มของนามิกำลังออกลูกอยู่เลย


นามิอยู่ในห้องอาหาร (แล้วซันจิไปไหน??)


จากดาดฟ้ามาชมในเรือบ้าง มีภาพห้องต่างๆ ในเรือติดอยู่


รูป Design เรือในมุมต่างๆ


พิมพ์เขียวของซันนี่


มีรูปสมาชิกกลุ่มหมวกฟางติดอยู่ทั่วไปหมด


ธงของแต่ละคน


มองออกไปนอกหน้าต่าง แย่แล้ว เจอเรือของกองทัพเรือ


อีกด้านมีเรือของแฮนค็อกมาช่วย


โรบินมายืนอยู่ตรงนี้เอง


อุซปกำลังประดิษฐ์อะไรอยู่หรือเปล่านะ


เห็น Dock ใต้ท้องเรือด้วย


ใต้ท้องเรือจะมองออกไปเห็นใต้ทะเลได้ (เป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยนะ)


คุณหมอช็อปเปอร์อยู่ในห้องปรุงยา


เจอซันจิแล้ว ทำอาหารอยู่นี่เอง


ในตู้เย็น(ที่แง้มไว้นิดเดียวเปิดไม่ได้) มีตุนเนื้อของโปรดลูฟี่ไว้ด้วย


ก่อนออกอย่าลืมแวะดูและซื้อของที่ระลึก


ออกทางนี้นะจ๊ะ


          เวลาผ่านไป 20 นาทีอย่างรวดเร็ว โดยที่ยู้และน้องสาวแทบไม่ได้สนใจเลยว่ามันแล่นไปไหน มัวแต่สนใจภายในเรือ ซันนี่กลับเข้าเทียบท่า (และเราก็ต้องลงกันแล้ว T_T) ก่อนจะจากกันก็มีการ์ดที่ระลึกให้คนละใบ ยู้ได้โรบิน ส่วนน้องสาวได้อุซป(เขาว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้นนะน้องสาว) เรากลับเข้าในที่ในตึกเพื่อแวะเข้าไปดู ห้องแสดงระลึกถึงแมรี่ ซึ่งในห้องนี้จะเล่นฉากอำลาแมรี่ ตอนที่แมรี่กล่าวอำลาและขอบคุณทุกคน แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ ขนาดฟังไม่ออกยังน้ำตาซึมๆ เลย T^T นอกจากแมรี่แล้วในตึกนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเดินเรือ เราไขกาจาปองจากที่นี่ไปนิดหน่อย ก่อนที่จะเดินย้อนกลับไปยังร้านอาหาร

การ์ดที่ระลึกสุ่มแจกนะจ๊ะ


ลาก่อนแมรี่ T^T


พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเรือ


          ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกอยู่บริเวณเดียวกัน มีของเกี่ยวกับวันพีชเยอะแยะมากมาย เราเดินๆดูและพยายามตัดใจไม่ซื้อเรือซันนี่กลับบ้าน หันมานั่งกินข้าวเที่ยงกันดีกว่า อาหารที่นี่จะตกแต่งเป็นแนววันพีชค่ะ ทำเป็นรูปหมวก ส่วนของหวานก็มีรูปซันนี่หรือโฮโรโฮโร่ ซึ่งเรากินข้าวแฮมเบิร์ก และข้าวแกงกะหรี่กัน ความจริงจานก็น่ารัก แต่มันเลอะ ก็เลยเก็บแค่ธงกับดาบกลับบ้าน บริเวณร้านอาหารมีตั้งโชว์ฟิกเกอร์ด้วย และมีจานที่มีลายเซ็น(คิดว่าน่าจะเป็นอาจารย์โอดะ)

ยินดีต้อนรับสู่ 80GR ร้านอาหารและของที่ระลึก


มีแผนที่ Huis Ten Bosch และบอกจุดต่างๆ ไว้ด้วย แต่เนื่องจากอ่านไม่ออกและเวลาน้อยเลยไม่ได้ลองไปตามแผนที่


มากินข้าวกันดีกว่าหิวแล้ว


บรรยากาศร้าน


อีกมุมนึง


เมนูอาหารมีประมาณนี้แหละ


พูดไม่ได้ อ่านไม่ออก ก็ไปยืนที่เคาท์เตอร์แล้วจิ้มๆ รูปในเมนูเอาค่ะ


มาแล้ว แกงกะหรี่ไก่ทอด กับแฮมเบิร์ก กุ้งทอด สปาเก็ตตี้ ฟินมากตรงหมวกกับธงนี่แหละ


มีมุมของสะสมด้วย อยากจิ๊กกลับบ้านชะมัด


กินอิ่มออกมาก็เจอคิดยืนส่งอยู่(หรือว่ายืนไล่?)


          หลุดออกจากโซนวันพีชออกมา ก็ตามไปเล่นเครื่องเล่นฟรี(รวมในบัตรรวมเครื่องเล่น) ที่พลาดไม่ได้เลยคือ เครื่องเล่นของวันพีช(อีกแล้ว) จะเป็นเรือให้เรานั่ง ไปตามฉากต่างๆในเรื่อง และมีปืนให้ยิงศัตรู เสร็จแล้วก็จะมีสรุปคะแนน และได้รางวัลเป็นการ์ดวันพีช ซึ่งจะแตกต่างไปตาม Point ที่ได้ด้วย หลังจากนั้นเราก็ไปลองเข้าเครื่องเล่นอื่นๆ อีกหลายอย่างซึ่งทำให้พบว่าทำไมคุณคนขายบัตรถึงทำหน้าแปลกๆตอนที่เราซื้อบัตรรวม เพราะเครื่องเล่นส่วนใหญ่ที่นี่เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ T_T เท่าที่อ่าน review คนไทยส่วนใหญ่ที่มาที่นี่จะเข้ามาถ่ายรูปกังหัน ดอกไม้ อะไรพวกนี้มากกว่า แต่เพราะเราเป็นพวกบ้าเครื่องเล่นก็เลยคิดว่าจะเข้ามาเล่น แต่เครื่องเล่นที่นี่จำนวนมากจะเน้นเล่าเรื่อง ทำให้คนฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออกอย่างเรา เอ๋อไปเลย บางอันสามารถซื้อเครื่องพากษ์ภาษาอังกฤษได้ค่ะ แต่ว่า 200 เยนแน่ะ เครื่องเล่นเราที่เข้าไปเล่นมามีตามนี้ค่ะ



  • Ghost Wedding The Carillon Museum และ Melody in the Dark Orgelhuis - สองอันนี้คล้ายๆบ้านผีสิงค่ะ ไม่แนะนำอย่างแรงสำหรับคนที่ฟังญี่ปุ่นไม่ออก เพราะข้างในจะเป็นการเล่าเรื่องราวให้เรากลัว พอฟังไม่ออกก็เลยไม่รู้จะไปกลัวตรงไหนดี

  • Japanese Ghost Story Hall – บ้านผีสิงนั่นเอง แต่เป็นผีญี่ปุ่นนะคะ น้องสาวเอาแต่กลัวก็เลยไม่ค่อยได้ตั้งใจดูอะไรเท่าไหร่ ใครชอบเรื่องผีญี่ปุ่นก็แนะนำเลยค่ะ ที่สำคัญไม่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น อิอิ

          สามอย่างด้านบนนี้อยู่ใน Zone Thiller Park ซึ่งดูเหมือนเป็นโซนที่มีชื่อเสียงของที่นี่ค่ะ ตอนกลางคืนจะมีเปิดไฟ แต่เสียดายที่อยู่ได้ไม่ถึง ใครมาอย่าลืมเข้าห้องน้ำในโซนนี้ดูนะคะ หลอนค่ะ



  • Grand Odyssey - อันนี้ก็พอใช้ได้นะคะ เป็นการฉายหนังที่ก่อนเข้าไปจะมีการ scan หน้าเราไว้ แล้วเอาตัวเราไปทำเป็นตัวละครในหนัง(แต่อยากบอกว่าหาตัวเองไม่เจอ) เนื้อเรื่องก็งั้นๆเพราะมันคงเน้นที่จะโชว์หน้าเรามากไปหน่อย เป็นเครื่องเล่นเดียวที่มีภาษาอังกฤษให้ฟรีเลือกได้เลยตรงที่นั่ง

  • Horizon Adventure Plus – เป็นการแสดงบนเวที ฟังไม่ออก แต่ดูจากท่าทางก็พอเดาๆ ได้ค่ะ อลังการงานสร้างมากๆ เป็นหนึ่งอันที่แนะนำ

  • HUIS TEN BOSCH IFX Theater Kirara – เป็นหนังที่ฉายบนจอใหญ่ ออกแนวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บอกว่าถ้าไม่มีดวงจันทร์โลกจะเป็นอย่างไร ไม่อยากบอกเลยว่าหลับค่ะ 555+

  • Super Trick Art – เป็น Trick art musuem เล็กๆ ถ้าเทียบกับพัทยาคงสู้ไม่ไหว แต่ก็พอใช้ได้ค่ะ

  • Magic Mirror Maze – เขาวงกตกระจก ค่อนข้างจะง่าย จนไม่ค่อยมีความทรงจำกับเครื่องเล่นนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าเด็กๆ เล่นคงจะสนุกเขาล่ะ(น้องสาวกล่าวว่า ชั้นยังไม่ทันเล่นเลย เธอก็ชี้แล้วว่าทางออกอยู่โน่น)

    ลองแอบดูที่รูสิจ๊ะ

ใครยืนจ้องเราอยู่


ขอบอกว่านี่ไม่ใช่หุ่นนะคะ (พยายามทำตัวให้เข้ากับบรรยากาศ)


Thriller Park


ห้องน้ำสยองขวัญ… ที่เห็นอยู่นั่นหุ่นทั้งหมดนะคะ


ออกจากโซนสยอง ก็มาเห็นร้านอาหาร One Piece อีกร้าน แต่เป็นเบอร์เกอร์


Trick Art Museum : ห้องเปลี่ยนขนาด (ตั้งชื่อเองซะงั้น)


Trick Art Museum : กระจกพิศวง


ก่อนกลับต้องไม่ลืมภาพบังคับ… กังหันลม..


          เข้าใจว่าตอนนี้ HUIS TEN BOSCH ไม่มีบัตรประเภทผ่านประตูอย่างเดียวแล้วนะคะ ก็คงต้องซื้อบัตรรวมเครื่องเล่นกันเข้าไป มีเพื่อนบอกว่ายังมีอยู่แต่ไม่ show ใน web

          เกือบจะได้เวลากลับแล้ว น้องสาวก็คิดขึ้นมาว่าอยากไปดูหนัง 3D วันพีช ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ แต่พอย้อนกลับไปดู รอบถัดไปต้องรออีกพักใหญ่ และถ้าดูอาจจะไม่ทันรถไฟขากลับ ในฤดูนั้นรถ LTD. EXP HUIS TEN BOSCH เที่ยวสุดท้ายออกประมาณ 16:45 ค่ะ ซึ่งไม่ได้หาแผนสำรองเผื่อตกรถไว้ ไม่รู้ว่าจะอ้อมไปทางอื่นได้ไหม ก็เลยต้องตัดใจ แล้วเดินกลับไปยังสถานีรถไฟเพื่อรอรถไฟกลับไปโอซาก้า ระหว่างทางกลับก็แวะซื้อข้าวกล่องรถไฟกิน พร้อมกับซื้อข้าวปั้นไปกินเช้าวันพรุ่งนี้ค่ะ

3D movie ทุกคนยืนเชิญชวนขนาดนี้ แต่สรุปว่าไม่ได้ดู


ข้าวกล่องรถไฟระหว่างทางกลับ


สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)

  • ตั๋ว Huis Ten Bosch 5,700 x 2 คน >>> 11,400 Yen

  • ลงเรือ Sunny 1,000 x 2 คน >>> 2,000 Yen

  • อาหารเที่ยง >>> 2,000 Yen

  • ไขกาจาปอง 2 อัน >>> 400 Yen

  • อาหาร&ขนม ระหว่างวัน และจิปาถะอื่นๆ >>> 500 Yen

  • ข้าวกล่องบนรถไฟ >>> 1,470 Yen

  • ซื้อขนมปังไว้กินเช้าวันรุ่งขึ้น >>> 950 Yen


ค่าใช้จ่ายไม่รวม Shoppingรวม Shopping
วันนี้18,32018,720
รวม214,930244,970

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น