วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น...สองสามวัน... : วันที่. 6 : Kamakura [Daibutsu - Hasedera - Engakuji -Meigetsuin - Kenchoji] : Thu. 01/11/2012

          วันนี้เป้าหมายของเราคือ kamakura เป็นเมืองที่เพิ่มเข้ามาหลังจากเปลี่ยนแผนเพิ่มวันแล้ว วันนี้ข้อมูลของเราจึงน้อยกว่าวันอื่นๆ มีแค่ตารางรถไฟและแผนที่คร่าวๆ ในบริเวณนั้น ไม่ได้วางแผนว่าจะต้องเที่ยวกี่วัด ไปที่ไหนบ้าง กะว่าจะเดินไปเรื่อยๆ เที่ยวหมดก็นั่งรถไฟไปจุดต่อไป เย็นเมื่อไหร่ก็กลับ และเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวคิดว่าน่าจะไปหาแผนที่เอาแถวนั้นได้ไม่ยาก

          ตอนเช้าเรารีบมาลงที่สถานี HASE เพื่อไปวัด Kotoku-in ไหว้พระใหญ่ Daibutsu ก่อนที่คนจะเยอะ (ความจริงจากสถานีจะถึงวัด Hasedera ก่อน แต่เราเดี๋ยวค่อยกลับมาแล้วกันนะ) ที่วัดนี้มีต้นสนซึ่ง รัชกาลที่ 7 ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่นี่อีกด้วย เราสามารถเข้าไปชมด้านในขององค์พระได้ด้วยนะคะ โดยเสียเงินเพิ่มนิดหน่อย ซึ่งข้างในก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก(จะให้มีอะไรล่ะ??) แต่จะมีป้ายแสดงเทคนิคประกอบองค์พระด้วย



Kotoku-in & Hasedera วิธีเดินทาง : นั่ง JR ลงสถานี Kamakura แล้วต่อรถไฟ local ไปสถานี Hase


มาวัด Kotokuin ไหว้พระใหญ่ Daibutsu ก่อนเลยตอนเช้าก่อนที่คนจะเยอะ


มีรองเท้าแขวนด้วย ไม่รู้ว่ารองเท้าท่าน Daibutsu หรือเปล่าใหญ่ขนาดนี้


ต้นสนที่ ร.7 ทรงปลูกไว้


ด้านในองค์พระ


หลังจากถ่ายรูปข้างในข้างนอกกันพอใจแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่วัด Hasedera แต่พอออกมาก็เห็นร้านขาย softcream เกาลัดพอดี ขอจัดสักโคนนึงก่อน(รสชาติงั้นๆ ไม่ได้รู้สึกอร่อยมากมาย)

แวะกิน Soft Cream เกาลัด 300 Yen


          วัด Hasedera ดูสวยดี สองพี่น้องก็ไปเดินดูเส้นทางชมดอกไม้(ที่ฤดูนี้ไม่มีดอกไม้) ถ้ามาในหน้าร้อนคงจะเห็น ดอกอะจิไซ อยู่เยอะแยะเลย แต่ขึ้นไปก็ได้เห็นนกเหยี่ยวบินไปบินมา จากวัดนี้เราจะเห็นบ้านเมืองและทะเลจากมุมสูงได้ด้วย อ้อ ช่วงนี้ที่วัด Hasedera ก็มีเทศกาลดอกเบญจมาศเหมือนกัน

วัด Hasedera บรรยากาศในวัดจะออกแนวมีสวนมีดอกไม้


สวนตกแต่งด้วยรูปปั้นน่ารักๆ


รอยพระบาท


แหงนมองข้างบนบ้าง


ถ้าจะไปวัดต้องขึ้นบันไดไปด้านบน เดินชิดซ้ายนะคะ


รูปปั้นองค์พระเต็มไปหมดเลยค่ะ คิดว่าน่าจะมีคนนำมาถวาย มีเยอะมากๆๆๆ นี่แค่ส่วนหนึ่ง



ขึ้นมาถึงด้านบนจะมีทางเดินชมดอกไม้ ถ้าเป็นเดือนมิ.ย.-ก.ค. ตรงนี้จะมีดอกอะจิไซ(ไฮเดรนเยีย)ค่ะ


มีคุณเหยี่ยวบินไปมาด้วย ทำให้รู้สึกว่าใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ


ถ่ายแต่สวนกับดอกไม้ มาที่วัดบ้าง ตรงนี้ตัววัดค่ะ แต่ด้านในไม่ให้ถ่ายภาพ




กลับมาที่สวน มีบ่อปลาคาร์ฟด้วย


ดอกไม้สวยๆ


          ด้านล่างของวัด Hasedera จะมีถ้ำเล็กๆ ให้เข้าชมด้วยค่ะ ด้านในก็จะเป็นรูปปั้น พระพุทธรูปหิน อะไรประมาณนี้ มาค้นดูไม่มีภาพเลย ไม่รู้ลืมถ่ายภาพมา หรือเขาไม่ได้ถ่ายก็ไม่รู้

          ผ่านไปแค่สองวัดก็จะเที่ยงซะแล้ว ไม่ได้ดูมาว่าแถวนี้มีร้านอะไรอร่อยหรือเปล่า เราก็เลยเดินเลือกสักร้านนึงแถวนั้น ก็อร่อยดีนะ หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไฟย้อนกลับไปที่สถานี Kita-kamakura สถานีนี้เป็นสถานีเล็กๆ ไม่มีประตูอัตโนมัติเปิดปิด ทำเอาเรางงว่าต้องเอาบัตรไปติ๊ดตรงไหน ออกจากสถานีมาก็เข้าไปในวัด Engakuji หน้าวัดมีคนถ่ายหนังหรืออะไรสักอย่างอยู่ด้วย พอเข้าไปในวัดรู้สึกว่าวัดเงียบสงบมากเลย อาจจะเพราะคนน้อยด้วย ต้นไม้ก็เยอะและสูงใหญ่ สังเกตเอาเองว่าวัดญี่ปุ่นมักจะตั้งอยู่บนเขาหรือในที่ไกลๆ คงเพื่อให้จิตใจสงบ ต่างจากวัดไทยที่เรามักจะตั้งในชุมชนเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ก็คนละแบบเนอะ

อาหารเที่ยงร้านแถวๆ นั้น โซบะเย็น + เทมปุระ


ของน้องสาวข้าวหน้าไก่+ไข่ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โอยาโกะด้ง(ข้าวหน้าแม่ลูก)


แผนที่แถวนี้


เจอเขาถ่ายหนังอะไรกันก็ไม่รู้


วัด Engakuji ดูเงียบสงบมากๆ

 

          จากนั้นเราก็เข้าไปยังวัด Meigetsuin เป็นวัดเล็กๆ จนรู้สึกว่ามาถูกวัดหรือเปล่าเนี่ย หลังจากนั้นเราก็เดินหอบแฮ่ก(เพราะเป็นทางชัน แบบขึ้นเขา) ไปยังวัด Kenchoji ระหว่างทางเจอเด็กนักเรียนกำลังเลิกเรียนจะกลับบ้านกันพอดี พอเดินไปถึงวัดก็ได้รู้ว่าข้างๆ วัดเป็นโรงเรียนนี่เอง(เท่าที่ดูน่าจะโรงเรียนชายล้วนซะด้วย) อย่างนี้เป็นโรงเรียนวัดเหมือนของไทยหรือเปล่านะ เห็นพวกชมรมกีฬาออกมาวิ่งด้วย(เหมือนจะสนใจโรงเรียนมากกว่าวัด 555) หลังจากเดินชมวัดเสร็จแล้ว ฟ้าก็เริ่มจะมืด ก็เลยตัดสินใจว่ากลับกันเลยดีกว่า



วัดต่างๆ แถว Kamakura วิธีเดินทาง : นั่ง JR ลงสถานี Kita-Kamakura (ถ้ามาจาก Tokyo จะถึงก่อนสถานี Kamakura ค่ะ)

เคยอ่านจากที่ไหนสักแห่งว่าให้เดินจาก Kita-kamakura มา Kamakura จะเดินง่ายกว่าเพราะเป็นทางลงเขา แต่เราเดินไปไม่ถึงสถานี Kamakura นะคะ รู้สึกงงทาง กลัวหลงเลยกลับทางเดิม ก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาไปและขากลับมันต่างกันเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ตอนเดินไปวัด Kenchoji มันขึ้นเนิน!!! ไม่รู้หลังจากนั้นจะเป็นการลงเนินหรือไม่นะคะ


เดินเลียบทางรถไฟชิวๆ ไปเรื่อยๆ


วัด Meigetsuin สัญลักษณ์จะเป็นกระต่าย


ป่าไผ่


สวนแนวญี่ปุ่น


พระพุทธรูป



สวนเล็กๆ


ดอกไม้สีเหลืองทำให้พระพุทธรูปดูสดใสขึ้นเยอะ


          วัด Meigetsuin มีชื่อเสียงในเรื่องสวนดอกอะจิไซค่ะ ไปฤดูใบไม้ร่วงเลยไม่ค่อยมีคน และไม่ค่อยมีอะไรให้ดู

เดินต่อไปยังวัด Kenchoji เจอตู้ขายน้ำแบบนี้แปลว่าไม่หลงค่ะ ตรงนี้มีร้านสตูว์เนื้ออร่อยๆ อยู่ค่ะ(ข้อมูลจาก Pantip ที่รู้หลังกลับมาแล้ว)


โรงเรียนเลิกพอดีเจอหนุ่มๆ นักเรียนเดินสวนทางมา


วัด Kenchoji



ข้างๆ วัดเป็นโรงเรียนชายค่ะ เผื่อใครอยากส่งหนุ่มๆ ตอนที่ไปได้ยินเสียงทำกิจกรรมชมรมกัน และเห็นบางคนออกมาวิ่งอยู่แว๊บๆ


          กลับมาจาก Kamakura แล้วเพิ่งรู้สึกว่าแต่ละวัดที่ชั้นแวะเข้าไปดูเนี่ย ไม่ได้เข้าไปดูองค์พระในตัวอุโบสถ(ญี่ปุ่นเรียกอุโบสถเหมือนกันไหมนะ)เลยนี่นา มัวแต่เดินชมนกชมไม้รอบๆ ไว้คราวหน้าถ้าได้ไปอีกต้องอย่าลืม 555+

          สรุปแล้วค่าเข้าวัดทุกวัดคนละ 300 Yen ค่ะ ยกเว้น Kotoku-in ที่แค่ 200 Yen ไปหลายๆ วัดก็ถึงกับจนได้เหมือนกันนะเนี่ย

          หลังจากนั้นกลับมาแล้วก็ไปแวะซื้อตั๋วเข้างาน One Piece ที่ 7-11 แล้วไป family mart เพื่อซื้ออาหารเย็น และโอเด้ง มานั่งกินกัน ไม่ใช่เพราะจะประหยัดหรอกนะคะ แต่อยากกินโอเด้งที่ญี่ปุ่นมานานแล้วไม่รู้จะไปหากินที่ไหน เอาจาก family mart นี่แหละ คืนนี้ก่อนนอนก็จัดกระเป๋าพร้อมร่ำลาบลูซัง(เป็นการชั่วคราว) ให้เรียบร้อย เพราะพรุ่งนี้เราจะออกจากบ้านก่อนหกโมง

อาหารที่ซื้อจาก Family mart มีข้าว โอเด้ง และบะหมี่ถ้วย สามอย่างกินกันสองคน


สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)

  • เติม Suica คนละ 2,000 x 2 คน >>> 4,000 Yen

  • อาหารเที่ยง >>> 2,310 Yen

  • อาหาร&ขนม ระหว่างวัน และจิปาถะอื่นๆ >>> 500 Yen

  • ค่าเข้าวัดรวมทุกวัด 1,400 x 2 คน >>> 2,800 Yen

  • ซื้อของฝาก >>> 300 Yen

  • ซื้อตั๋ว One Piece 1,800 x 2 คน >>> 3,600 Yen

  • ของกินจาก Family mart (อาหารเย็น) >>> 910 Yen

  • ซื้อขนมปังไว้กินเช้าวันรุ่งขึ้น >>> 750 Yen



ค่าใช้จ่ายไม่รวม Shoppingรวม Shopping
วันนี้4,83015,170
รวม125,580147,230

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น