วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่น...สองสามวัน... : วันที่. 22 : Mitake : Sat. 17/11/2012

          สถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของเราคือมิตาเกะ ซึ่งเพิ่มเข้ามาทีหลังจากที่ปรับเพิ่มแผนไปแล้ว และเราไม่ได้ดูอะไรมามาก เพราะกะว่าจะให้เจ้าถิ่นชาวญี่ปุ่นพาไป(เซนเซย์นั่นเอง) วันนี้เราตื่นเช้าขึ้นมาทานอาหารที่เซนเซย์ทำให้ทาน รวมกับของบางอย่างที่ซื้อมาเมื่อวานเย็น เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วก็ออกเดินทางขึ้นรถไฟไปมิตาเกะ

          เมื่อถึงสถานีแล้วก็ต้องนั่งรถเมล์ต่อไปอีก โดยบนรถเมล์ใช้บัตร suica ได้ค่ะ พอมาถึงปลายทางแล้วก็ต้องซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าไปด้านบนเขาอีกต่อหนึ่ง โดยมีที่ซื้อตั๋วอัตโนมัติอยู่ ถ้าใครมีแบงค์ใหญ่ ก็ต้องไปแลกกับเครื่องแลกก่อน ปรากฏว่าเราใส่แบงค์หมื่นเยนเข้าไปแล้วมันติดค่ะ กินแบงค์เข้าไปเฉย แล้วไม่คายอะไรออกมาเลย ระหว่างที่ยืนอึ้งอยู่เซนเซย์ก็เข้ามาถามว่ามีอะไรและไปบอกเจ้าหน้าที่ให้ วันนี้เราก็เลยรอดการใช้ภาษามือไปอีกวันนึง ฮ่าๆ

          นั่งกระเช้าขึ้นไปด้านบนแล้วก็จะพบจุดชมวิว และเราสามารถนั่งกระเช้าเล็กๆ ขึ้นไปอีกต่อหนึ่ง เป็นกระเช้าที่หน้าตาเหมือนชิงช้าที่นั่งขึ้นเขาตอนเล่นสกี แต่ว่าเตี้ยมากๆ ขาแทบจะถึงพื้นเลยค่ะ ถ้าใครไม่อยากขึ้นกระเช้าอันนี้ก็เดินขึ้นไปก็ได้ตามสะดวกจ้า เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วก็ได้เวลาเดินๆๆๆๆ ขึ้นไปตามทางชันๆ เพื่อขึ้นไปยังศาลเจ้าด้านบน ซึ่งเราก็มีเพื่อนร่วมทางทั้งวัยรุ่น และวัยกลางคนเต็มไปหมดเลยค่ะ



Mitake วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟมาที่สถานี JR Ome แล้วต่อรถจนมาถึงสถานี Mitake แล้วต่อรถเมล์ไปต่อ cable car อีกที


ก่อนขึ้น Ropeway เจอแปะก๊วยต้นใหญ่


วิวจากด้านบน


นั่งกระเช้าต่อไปอีก 1 ชั้น


แผนที่มิตาเกะ


ระหว่างขึ้นไปศาลเจ้าก็มีใบไม้แดงให้ชม


เข้าสู่ทางชัน


เอาฮึบปีนหน่อย


          ระหว่างทางนั้นก็มีใบไม้แดงสวยๆให้ชมกัน และมีบ้าน มี Hostel อยู่บนนี้ด้วยนะคะ สงสัยจังว่าคนที่อาศัยบนนี้นี่ลำบากไหมนะ ต้องมาขึ้นๆลงๆเขา ขึ้นมาถึงศาลเจ้าด้านบนแล้ว หลังจากไหว้ศาลเจ้า ก็ชักภาพ พักเหนื่อย และเข้าห้องน้ำกันเล็กน้อย แล้วก็กลับลงมาแต่คราวนี้เราใช้วิธีเดินลงแทนการขึ้นกระเช้าเล็กค่ะ จะได้ดูธรรมชาติสองข้างทางด้วย (เซนเซย์บอกว่ามีป้ายระวังหมีติดอยู่ตามทางด้วย เคยมีคนเห็นหมีออกมาแถวนี้) ถ้าใครขึ้นมาบนศาลเจ้าแล้วยังไม่สะใจข้างบนสามารถเดินต่อไปยังน้ำตกได้อีกนะคะ(ไม่รู้ว่าไกลหรือไม่อย่างไร) แต่ทริปนี้เราไม่ได้ไปต่อเนื่องจากดูท่าทางเซนเซย์จะเดินไม่ไหวแล้ว ตอนนั่งรถกลับฝนก็ตกปรอยๆ ลงมา ท่าทางดวงเรากับเซนเซย์จะถูกกับพระพิรุณนะเนี่ย หลังจากนั่งรถไฟกลับมาแล้ว เราก็ไปทานอาหารเที่ยง(ราเมง) กับเซนเซย์อีกหนึ่งมื้อ ก่อนจะขออำลากลับไปหาบลูซัง

รู้สึกชอบบ้านเรือนแถวนี้อย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าตอนสร้างเขาทำยังไงกันนะ


เหมือนจะถึงแล้วแต่แค่ปากทางค่ะ ข้างในมีบันไดต่อไปอีก


ใครเหนื่อยก็นั่งพักก่อนได้


หันกลับไปดูทางที่ปีนขึ้นมา


ตรงขั้นบันไดมีอะไรอยู่ด้วยน่ะ


ถึงจริงๆ แล้ว Musashi-Mitake Shrine


ด้านล่างเป็นที่เก็บชุดเกราะ (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ)


อีกมุมหนึ่งของศาลเจ้า


ขาลงเดินกลับชิวๆ (แต่แค่ต่อเดียวนะ ไม่ได้ลงไปถึงข้างล่าง)


บ้านเมืองซ่อนอยู่ตามเขา


เจอโทริอินี้ก่อนจะไปถึงสถานีเพื่อนั่งรถกระเช้าลงไปด้านล่าง


วิวแม่น้ำ ถ่ายจากสะพานแถวสถานีรถไฟ


อีกด้านนึง


อาหารเที่ยงวันนี้ง่ายๆ กินราเมงแล้วกัน


          จนตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่ว่าตรงไหนของมิตาเกะที่เขาชอบไปเที่ยวและถ่ายรูปกัน ตรงที่เป็นแม่น้ำข้างๆ สถานีรถไฟ หรือว่าจะต้องเดินบุกเข้าไปถึงน้ำตกกันนะ

          กลับมาถึงที่พัก วันนี้บลูซังพาออกไป Shopping ของฝาก คือ ปากกาที่ลบได้ และพาไปดองกิโฮเต้ เพื่อซื้อขนมของฝากกลับไทย ก่อนจะพาไปกินเนื้อย่างกันที่ร้าน jojoen (เป็นร้านที่ดูหรู ชนิดที่ให้มาเองคงไม่กล้าเดินเข้ามา ที่สำคัญคือ ไฟแรงมาก พลิกเนื้อแทบไม่ทัน เผลอเหม่อเผลอเม้าท์เป็นไหม้ ฮา)

ร้านนี้มีหลายสาขา ซื่งคนค่อนข้างเยอะก่อนมาจองสักหน่อยก็จะดี http://www.jojoen.co.jp/

อาหารมาแล้วเตรียมย่าง


ลิ้นวัว >///<


เนื้อลายหินอ่อน


ของหวาน ร้านแถมให้ค่ะ


สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้(รวม 2 คน)


  • Coin Locker >>> 600 Yen
  • รถเมล์(ส่วนทีเกินจากในบัตร) >>> 970 Yen
  • Ropeway >>> 2,380 Yen
  • อาหารเที่ยง >>> 2,000 Yen
  • ขนม & อื่นๆ จิปาถะ ระหว่างวัน >>> 370 Yen
  • ของฝาก >>> 6,230 Yen


ค่าใช้จ่ายไม่รวม Shoppingรวม Shopping
วันนี้6,32012,550
รวม449,692511,912

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น